คันทรี่ กรุ๊ปฯ รักษาเครดิต ‘BBB-‘ ฐานทุน-สภาพคล่องดี

ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ BBB- สะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอ ฐานทุนแข็งแกร่ง รายได้กระจายตัว แต่กำไรผันผวน คาดแนวโน้มบริษัทร่วม บลจ.เอ็มเอฟซี-คันทรี่จะดีขึ้น 2-3 ปีข้างหน้า

บริษัท ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) ที่ระดับ “BBB-” สะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอ ตลอดจนฐานทุนที่แข็งแกร่ง และแหล่งรายได้ที่มีการกระจายตัวดี แต่อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากความเสี่ยงด้านราคาหุ้นจากธุรกิจการลงทุนและกำไรสุทธิที่มีความผันผวนของบริษัท

“บริษัทคันทรี่ กรุ๊ปฯ มีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับแผนการลงทุนในอนาคต มีเงินสดทั้งสิ้น 1,403 ล้านบาท บริษัทยังมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงด้วย โดยอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวม อยู่ที่ระดับ 58.1% ณ เดือนมิ.ย. 2561 ” ทริสเรทติ้งระบุ

นอกจากนี้ โครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าบริษัทจะดำเนินการตามแผนการลงทุนในอนาคต บริษัทมีอัตราส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์สูงถึง 72.2% พร้อมทั้งมีภาระหนี้จำนวน 1,279 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 5,948 ล้านบาท

บริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายและไม่ได้กระจุกตัวอยู่ที่รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพียงแหล่งเดียวถึงแม้ว่าจะมี บล.คันทรี่ กรุ๊ป เป็นบริษัทย่อยหลักของกลุ่มเพียงแห่งเดียวก็ตาม โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ย 51% ของรายได้รวมและยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจวาณิชธนกิจเฉลี่ย 5% อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์จำนวน 14%

ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วม ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) เอ็มเอฟซี บริษัท ผาแดงอินดัสทรี และ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ คิดเป็นประมาณ 11% ของรายได้รวม ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทริสเรทติ้งคาดว่าส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วม จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลประกอบการของ บลจ. เอ็มเอฟซี และบริษัทผาแดงอินดัสทรี มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิของบริษัทมีความผันผวน และมีผลขาดทุนสุทธิ 20 ล้านบาทในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 หนึ่งในเหตุผลหลักมาจากความอ่อนแอลงของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป เนื่องเป็นช่วงระหว่างการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจจากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ไปสู่การให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลง โดยเฉพาะจากจากบริษัทผาแดงฯ ทริสเรทติ้งคาดหวังว่ากำไรสุทธิของบริษัทคันทรี่ฯจะดีขึ้นและจะมีความผันผวนน้อยลง

แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า บล. คันทรี่ กรุ๊ป ในฐานะที่เป็นบริษัทลูกจะรักษาระดับผลประกอบการทางการเงินและพัฒนาสถานะทางการแข่งขันให้ดีขึ้นต่อไปได้ และยังคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงได้รับกระแสเงินสดที่แน่นอนจากบริษัทร่วมอย่างต่อเนื่อง