MFC มองอุตฯ เทคโนโลยีโตดี IPO กองใหม่ขายวันนี้-6 พ.ย.

บลจ.เอ็มเอฟซี มองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเติบโต จำนวนการใช้ Data เพิ่มสูงขึ้นรวดเร็ว ทุกอุตสาหกรรมต้องพึ่งเทคโนโลยีและเอเชียเป็นศูนย์กลางผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีของโลก เสิร์ฟกองทุนใหม่ลงทุนหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

น.ส.ประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย เทคโนโลยี (M-ATECH) เปิดขายครั้งแรกวันนี้-6 พ.ย.นี้ โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ กองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หรือบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้ง กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน และกองทุนนี้กระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก

กองทุนเปิด M-MATECH คาดว่าจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศสองกองทุนได้แก่ กองทุน Wellington Asia Technology (USD N Accumulating unhedged) ซึ่งบริหารโดย Wellington Management Company กองทุนมุ่งหวังผลตอบแทนระยะยาวโดยลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ประกอบธุรกิจในภูมิภาคเอเชียที่มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี และกองทุน Invesco China Technology ETF ซึ่งบริหารโดย Invesco Capital Management LLC เป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนกองทุนให้ใกล้เคียงผลตอบแทนดัชนี AlphaShares China Technology ซึ่งเป็นดัชนีสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทที่ประกอบธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในจีน ฮ่องกง มาเก๊า

จากความเห็นของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี มองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเติบโตมาตลอดในช่วงปีค.ศ.2012-2018 และมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวต่อไป โดยมีความสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมอื่นๆ ให้เติบโต และอุตสาหกรรมอื่นๆ ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี เช่น รถยนต์ไร้คนขับ Shopping Online โรงงานที่ใช้หุ่นยนต์ในการผลิต และวงการแพทย์ เป็นต้น นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าจำนวนการใช้ Data จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะแตะระดับ 160 trillion GD ภายในปีค.ศ. 2025

ทั้งนี้ปัจจุบันเอเชียเป็นศูนย์กลางการริเริ่มและผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีของโลก จากการเป็นแหล่งที่ตั้งของ Supply chain สำหรับสินค้าเทคโนโลยีและเป็นแกนหลักของเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ ซึ่งการเติบโตของบริษัทที่น่าลงทุนมีจำนวนมากสวนทางกับการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีของเอเชียที่ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้การเติบโตอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลางในภูมิภาคเอเชียที่สูงกว่าภูมิภาคอื่นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และยังเป็นตลาดอุปโภคที่สำคัญในการรองรับสินค้านวัตกรรมใหม่ด้วย

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลกระทบเชิงลบของการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าของโลก (US-China Trade War) การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ ปัญหาการเมืองในยุโรป และความกังวลต่อเสถียรภาพภายนอกประเทศของกลุ่มตลาดเกิดใหม่

ทั้งนี้กองทุนเปิด M-ATECH เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนไปลงทุนซึ่งอาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้ สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวโดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งนี้ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนบางส่วนหรือทั้งหมดตามแต่สภาวการณ์ ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

หลังการเสนอขายครั้งแรก กองทุนเปิด M-ATECH จะเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2561 เป็นต้นไป สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกได้ตั้งแต่ 10,000 บาท