บลจ.กรุงศรี มองหุ้นไทยน่าสนใจในเอเชีย ลุยปันผล 4 กองหุ้น-LTF

บลจ.กรุงศรี มองเชิงบวกหุ้นไทยในระยะกลางถึงยาว เศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต เชื่อน่าลงทุนเมื่อเทียบตลาดเอเชีย พร้อมโชว์ผลงานบริหารกองทุนหุ้น LTF ปันผล 4 กองทุนรวด KFLTFDIV , KFTSTAR-D ,KFSDIV , KFGROWTH-D ปิดบุ๊ค 8 พ.ย. จ่ายเงิน 19 พ.ย.นี้

น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี เปิดเผยว่า บลจ.กรุงศรี มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะกลางถึงยาวจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ยังเป็นที่น่าสนใจลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค แม้ว่าในระยะสั้นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวโน้มผันผวน และเคลื่อนไหวตามกระแสเงินลงทุนต่างชาติ รวมถึงปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ สถานการณ์สงครามการค้า การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางฯ ประเทศต่างๆ และทิศทางการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นต้น

“แม้ว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวนจากปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบ แต่กองทุนLTF และกองทุนหุ้นทั้ง 4 กองทุนภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทที่ประกาศจ่ายปันผลมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”น.ส.ศิริพร กล่าว

กอทุนดังกล่าว ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 30 กันยายน 2561 ประมาณหน่วยละ 0.75 บาท สามารถสร้างผลตอบแทนรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 12.34% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 7.97%

กองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์ปันผล (KFTSTAR-D) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 28 กันยายน 2561 ประมาณหน่วยละ 0.30 บาท จุดเด่นของกองทุนคือใช้กลยุทธ์แบบ Blend Model เฟ้นหาหุ้นเด่นจากทุกกลุ่ม โดยไม่มีข้อจำกัดด้านขนาดหรือประเภทหุ้น ลงทุนได้ทั้งหุ้นปันผล หุ้นเติบโตสูง หุ้นขนาดกลาง -เล็ก มีความยืดหยุ่นสูงในการปรับสัดส่วนให้เหมาะสมที่สุดในแต่ละภาวะตลาด

กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 30 กันยายน 2561 ประมาณหน่วยละ 0.50 บาท สามารถสร้างผลตอบแทนรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 12.91% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 9.20%

กองทุนเปิดกรุงศรีโกรทอิควิตี้-ปันผล (KFGROWTH-D) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 28 กันยายน 2561 ประมาณหน่วยละ 0.95 บาท สามารถสร้างผลตอบแทนรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 11.21% สูงกว่าดัชนี ชี้วัดที่ 8.07% (ที่มา : บลจ.กรุงศรี ณ 28 ก.ย. 61 /ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)

กองทุนทั้ง 4 ดังกล่าวจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 และจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่19 พฤศจิกายน 2561”