JKN มั่นใจปี 61 โตตามเป้า 20%

“เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย” มั่นใจปีนี้โตตามเป้า 20% กระแสซีรี่ส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์ และตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจากช่อง 3 บูมในภูมิภาคอาเซียน หนุนรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ตลาดในประเทศยังฮอต สถานีดิจิทัล 2-3 ราย ขอซื้อลิขสิทธิ์ซีรี่ส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์ไปออกอากาศเพิ่มขึ้น

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ( JKN) ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2561 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีปัจจัยมาจากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ประเภทซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ในตลาดต่างประเทศในกลุ่ม CLMV มีอัตราเติบโตที่โดดเด่น หลังจากช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้บริษัทฯ รับรู้รายได้บางส่วนจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์และได้เริ่มทยอยส่งมอบลิขสิทธิ์ไปแล้วคิดเป็นมูลค่าไปแล้ว 77 ล้านบาท จากมูลค่าสัญญาทั้งหมด 120 ล้านบาท โดยในส่วนที่เหลือจะทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังทั้งหมด

ขณะที่กระแสซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ในตลาดประเทศไทย ยังคงครองความนิยมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลูกค้ารายใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลให้ความสนใจติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ซีรี่ส์เข้ามาอีก 2-3 ราย เพื่อนำไปออกอากาศสร้างเรตติ้งให้แก่ทางสถานี โดยคาดว่า JKN จะสามารถสรุปรายละเอียดของสัญญาสำหรับลูกค้ารายใหม่ได้ทั้งหมดภายในปีนี้

นอกจากนี้ JKN ยังประสบความสำเร็จในการทำตลาดเพื่อจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ละครไทยจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ไปยังภูมิภาคอาเซียน โดยมีตลาดสำคัญได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มทยอยส่งมอบลิขสิทธิ์คอนเทนต์บางส่วนให้แก่ฟิลิปปินส์และมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถปิดการขายในประเทศอินโดนีเซียที่จะทยอยส่งมอบได้ในไตรมาส 4/61 ปีนี้ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังจะรุกขยายตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไทยไปยังตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติม ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ โดยคาดว่าจะสรุปรายละเอียดของสัญญาได้ภายในสิ้นปีนี้และจะเริ่มส่งมอบคอนเทนต์ได้ภายในต้นปี 2562

ล่าสุด ยังได้เป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ภาพยนตร์เรื่อง ‘นาคี2’ โดยจะมีการต่อยอดกระแสความนิยมของภาพยนตร์เพื่อจำหน่ายไปทั่วโลก ยกเว้นประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีและช่วยสนับสนุนรายได้ของ JKN ให้เติบโตตามแผน

“ในปีนี้เราจะเห็นรายได้จากตลาดต่างประเทศเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมาจากความสำเร็จในการรุกขยายคอนเทนต์ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์และลิขสิทธิ์คอนเทนต์ช่อง 3 ไปในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก รวมถึงตลาดในประเทศก็มีทีวีดิจิทัลให้ความสนใจซื้อคอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ไปออกอากาศเพิ่มเติม จึงช่วยสนับสนุนให้เราผลักดันการเติบโตได้ตามแผนที่ตั้งเป้าจะเติบโต 20%” นายจักรพงษ์ กล่าว