KC ชนะคดีศาลสั่งอดีตกก.ชดใช้เงินบริษัทฯ 800 ล้าน

“เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้” ชนะคดีแพ่งศาลพิพากษา “สรรชัย อินทรอักษา-กฤติภัทร (ภัทรภพ) อิทธิสัญญากร-เทพวิภา บุตรพรม” ร่วมคืนเงินให้บริษัทฯ กว่า 800 ล้านบาท ส่วนกรณีบริษัทตั้งสำรองหนี้ 350 ล้านบาทจะรับรู้รายได้หลังได้รับเงินชำระค่าเสียหาย

บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) แจ้งผลคำพิพากษาของศาลจังหวัดมีนบุรีในคดีแพ่งกับอดีตกรรมการและผู้เกี่ยวข้องว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2561 ศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำสั่งพิพากษาว่า นายสรรชัย อินทรอักษา จำเลยที่ 1 นายกฤติภัทร (ภัทรภพ) อิทธิสัญญากร จำเลยที่ 2 และนายเทพวิภา บุตรพรม จำเลยที่ 3 ร่วมกันนำเงินของโจทก์ไปอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ทำให้ KC ในฐานะโจทก์ได้รับความเสียหาย ให้จำเลยทั้งสามต้องร่วมกันคืนเงินให้แก่โจทก์

ศาลได้มีคำสั่งในคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามปฏิบัติตามดังต่อไปนี้ คือ 1) ให้จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันชำระเงิน 414,483,630.46 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5% ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ 2) ให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดชำระเงิน 393,136,451.43 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5% ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ 3) ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 80,000 บาท 4) คำขออื่นให้ยก

ทั้งนี้ ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกถึงวันฟ้องเป็นเงินจำนวน 41,929,682.19 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5% ต่อปี นับแต่วันที่จำเลยทั้งสามร่วมกันเบียดบังเงินของโจทก์ไปนั้น ศาลถือว่ามิใช่ค่าเสียหายโดยตรงจึงไม่กำหนดให้จำเลยทั้งสามต้องร่วมรับผิด

บริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองหนี้ไว้จำนวน 350 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะรับรู้รายได้ต่อเมื่อจำเลยชำระค่าเสียหาย หากกรณีที่จำเลยไม่ชำระค่าเสียหาย บริษัทฯ จะดำเนินการติดตามทรัพย์ของจำเลยทั้งสามเพื่อนำมาขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระหนี้

ทั้งนี้ ตามที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการยื่นฟ้องคดีแพ่งในข้อหาผิดสัญญา ละเมิดและเรียกค่าเสียหายอดีตกรรมการและผู้เกี่ยวข้อง 3 รายในคดีแพ่งในข้อหาผิดสัญญา ละเมิดและเรียกค่าเสียหาย โดยมีทุนทรัพย์ทั้งในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน 514,409,394 บาท