สงครามการค้าทุบหุ้นไทยเดือนต.ค.ร่วง 5% ลงน้อยกว่าเอเชีย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยสงครามการค้าทุบหุ้นทั่วโลก ดัชนีหุ้นไทยดือนต.ค.ลดลง 5% จากเดือนก่อนหน้า ลงกว่า 4.8% จากสิ้นปี 60 ชี้ลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในเอเชีย ด้านมูลค่าซื้อขายหด 15.5% นักลงทุนสถาบันและรายบุคคลซื้อแน่น ชูอัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นเอเชีย

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในเดือนต.ค.2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวลดลงไปในทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก จากความกังวลของผู้ลงทุนในเรื่องความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และนำไปสู่ความกังวลต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2560 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่ในเอเชีย ทั้งนี้ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ประกอบกับผลประกอบการในไตรมาส 3/2561 ของกลุ่มธนาคารเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ภาพรวมการซื้อขายในเดือนต.ค.2561 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 64,317 ล้านบาท ซึ่งเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดอื่นในภูมิภาค

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนต.ค.2561 ปิดที่ 1,669.09 จุด ลดลง 5% จากสิ้นเดือนก่อน และปรับตัวลดลง 4.8% จากสิ้นปี 2560 โดยกลุ่มทรัพยากร และกลุ่มธุรกิจการเงินให้ผลตอบแทนมากกว่า SET index

Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย อยู่ที่ระดับ 15.43 เท่า ขณะที่ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.51 เท่าซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.19 เท่า และ 13.99 เท่า ตามลำดับ

อัตราเงินปันผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ 3.16% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 3.08%

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 17.3 ล้านล้านบาท ลดลง 3.4% จากสิ้นปี 2560 ตามทิศทางดัชนี

มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ระดับ 54,595 ล้านบาท ลดลง 15.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 379,863 สัญญา ซึ่งลดลง 24.3% จากเดือนก่อน มาจากการซื้อขาย Single Stock Futures ที่ลดลงเป็นหลัก