DDD ร่วงรับ Q3 ขาดทุน-ลามขาย BEAUTY

นักลงทุนเทขายหุ้น DDD ร่วงกว่า 2% หลังไตรมาส 3/61 พลิกขาดทุนรายได้จีนวูบหนัก ฉุดหุ้น BEAUTY ลดลงตาม

ความเคลื่อนไหวหุ้นบริษัท ดู เดย์ ดรีม (DDD) ณ เวลา 10.50 น. อยู่ที่ 30.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -2.42% มูลค่าการซื้อขาย 95.04 ล้านบาท โดยเปิดตลาดร่วงลงต่ำสุดแตะ 28 บาท ลดลง 3 บาท หรือ 9.68% และสูงสุด 31.25 บาท

หลังจาก DDD แจ้งผลงานไตรมาส 3/2561 พลิกขาดทุนสุทธิ 0.66 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 44.39 ล้านบาท และงวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 174.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.55 บาท ลดลง 31.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 253.45 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.11 บาท โดยสาเหตุหลักจากรายได้ในจีนลดลงหนัก

นอกจากนี้หุ้น BEAUTY มีแรงขายออกมามากเช่นกัน โดยราคาหุ้นลดลงไปต่ำสุด 10.10 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ -5.6%% และณ เวลา 10.52 น. อยู่ที่ 10.40 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -2.80% มูลค่าซื้อขาย 68.83 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย ยังคงประมาณการกำไร DDD ปี 2561 ที่ 227 ล้านบาท หรือลดลง 35.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและยังคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท อิงวิธีคำนวณแบบคิดลดเงินสด (DCF) นอกจากนี้ แม้เราจะคาดว่ากำไรไตรมาส 4/2561 จะปรับดีขึ้น แต่ก็มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าปัจจัยฉุดภาพรวมระยะกลางของบริษัทฯ

“กำไรไตรมาส 3/61 ถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดว่าจะมีกำไรเป็นศูนย์ในไตรมาส 3/2561 และต่ำกว่าที่ Bloomberg consensus คาดว่าจะมีกำไรที่ 5 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ไตรมาส 3/2561 ออกมาต่ำกว่าที่เราคาดอย่างมาก แต่ได้รับการชดเชยจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ที่ดีกว่าคาด ขณะที่กำไรสะสม 9 เดือนแรกอยู่ที่ 174.3 ลบ. ลดลง 31.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและคิดเป็น 76.7% ต่อประมาณการทั้งปีของเรา”บล.กสิกรไทย ระบุ

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายไปปี2562 ที่ 36.00 บาท อิง DCF (WACC 10.9%, TG 2.0%) โดยมองว่าราคาที่ปรับตัวลง 31% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนผลกระทบจากผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวใน 3Q18 ไปมากแล้ว ในขณะที่เราคาดว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวของกำไรอย่างจริงจังเร็วสุดใน 4Q18 ดังนั้น ยังคงคำแนะนำเพียง “ถือ” จนกว่าเราจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ปัจจุบัน DDD เทรดอยู่ที่ PER 27.6 เท่า ถือว่ายังคงไม่น่าสนใจในระยะสั้น สำหรับระยะยาวเรามองว่ายังคงเป็นบริษัทฯที่เติบโตดีต่อเนื่อง

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” แม้ทางฝ่ายคาดเช้านี้มีโอกาสเกิดแรงเทขายหลังงบออกมาไม่สดใส แต่คาดผลดำเนินงาน DDD ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q61 และมีโอกาสกลับมาฟื้นตัว q-q ได้ใน 4Q61 หลังเข้า High Season กระตุ้นการจับจ่าย, การออกสินค้าใหม่ (ICY MASK) รวมถึงยอดขายจากฟิลิปปินส์ที่เริ่มเห็นทิศทางดีขึ้น ซึ่งคาดช่วยชะลอยอดขายในจีนที่ยังอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์รายใหม่ จึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาพื้นฐานปี 62 ที่ 33.50 บาท (วิธี DCF)