ราคาน้ำมันดิบขึ้นรับโอเปก-นอกโอเปกส่งสัญญาณลดผลิต

ราคาน้ำมันดิบเช้านี้ปรับตัวขึ้น หลังกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกโอเปกส่งสัญญาณปรับลดอุปทานน้ำมันปี 62 ซาอุนำร่องจะลดส่งออกน้ำมันเดือนหน้า

ราคาน้ำมันเช้าวันที่ 12 พ.ย.2561 ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.54 เซนต์มาที่ 60.73เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.77 เซนต์มาที่ 70.95 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาปรับตัวขึ้น หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซีย ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยที่ประชุมได้ส่งสัญญาณถึงแผนการปรับลดอุปทานน้ำมันในปี 2562 ขณะที่ซาอุดีอาระเบียนำร่องด้วยการให้คำมั่นว่าจะปรับลดการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า

คณะกรรมการ JMMC ของกลุ่มโอเปกระบุว่า โอเปกอาจจำเป็นต้องใช้ “กลยุทธ์ใหม่ๆ” ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณว่า โอเปกและชาติพันธมิตรอาจร่วมมือมากขึ้นในการปรับลดการผลิตในปี 2562
นอกจากนี้ คณะกรรมการ JMMC ยังได้ทำการทบทวนปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์และอุปทานน้ำมันในปัจจุบัน โดยระบุว่า ในปี 2562 นั้น มีแนวโน้มว่าอุปทานน้ำมันจะปรับตัวขึ้นสูงกว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก และยังระบุด้วยว่า การขยายตัวที่อ่อนแรงลงของเศรษฐกิจโลกนั้น จะส่งผลให้ภาวะอุปทานและอุปสงค์น้ำมันมีความเหลื่อมล้ำกันมากขึ้น

บริษัท ไทยออยล์ รายงาน ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันที่ 9 พ.ย.2561 อยู่ที่ 60.19 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 0.48 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และเบรนท์ ปิด 70.18 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 0.47 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณอุปทานในตลาดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวลง โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสได้ปรับตัวลดลงเป็นเวลา 10 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลานานที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค.2527 เป็นต้นมา

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปี 2561 และ 2562 ลดลงปีละ 0.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกจะปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ปรับคาดการณ์ปริมาณอุปทานน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.4ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค.61 ที่ผ่านมา ด้าน Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ณ วันที่ 9 พ.ย.เพิ่มขึ้น 12 แท่น แตะ 886 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน มี.ค.2558

บริษัท ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ เวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 58 – 63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 68 – 73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล