โบรกฯ มองหุ้นวันนี้แกว่งตัว

โบรกฯ คาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวกรอบ 1640-1665 จุด รอปัจจัยใหม่ แม้ราน้ำมันดิบเพิ่มดีต่อกลุ่มพลังงาน ตลาดยังกังวลสงครามการค้าและเงินไหลออก

บล.เอเซีย พลัส มองแนวโน้ม SET Index วันนี้ คาดยังแกว่งตัวในกรอบ 1640-1665 จุด การฟื้นตัวของราคาน้ำมันที่เกิดขึ้นจากตัดลดกำลังการผลิต ไม่น่าจะหักล้าง Demand โลกทีมีแนวโน้มชะลอตัวจากสงครามทางการค้า ขณะที่ในประเทศยังมีแรงขายรับงบ 3Q61 แม้จะมีแรงหนุนจาก LTF และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐ ผ่านมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว

บล.กรุงศรี คาดดัชนีวันนี้แกว่งตัว 1,645 – 1,660 จุด เนื่องจากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะสามารถรีบาวด์ขึ้นยืนเหนือ 56 US/Barrel หลังสมาชิกกลุ่มโอเปกสนับสนุนให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงในการประชุม 6 ธ.ค.ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน

อย่างไรก็ตาม sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงจากความกังวลหุ้นกลุ่มธนาคารที่อาจมีมาตรการเข้มงวดขึ้นหลังพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏร รวมถึงตัวเลข CPI สหรัฐเดือนต.ค.ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 9 เดือน +0.3% MoM จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้ FED ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในการประชุม 18 – 19 ธ.ค. ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อ Fund Flow ต่างชาติให้มีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง นอกจากนี้ความผันผวนของหุ้นรายตัวหลังประกาศงบ 3Q18 ซึ่งจะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวนง่าย

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI, BA) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงและครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและผ่อนปรนวีซ่าเข้าประเทศ หุ้นที่เข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ Global Standard (GULF, MTC) Small Cap (CBG, MBK, PRINC) มีผลวันที่ 30 พ.ย. กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้ม SET แกว่งตัว sideways สร้างฐานต่อเพราะยังถูกกดดันจากแรงขายของต่างชาติทั้งในตลาดหุ้นและฟิวเจอรส์ และยังถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลงในปีหน้า งบประมาณอิตาลีที่ EU ไม่น่าเห็นด้วย เรื่อง Brexit ที่ยังต้องติดตาม ขณะที่ผลประกอบการ 3Q18 ของไทยไม่สดใส การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ส่งผลลบต่อกลุ่มอสังหาฯต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าแรงซื้อ LTF/RMF จะหนุนตลาดได้ในช่วงปลายปี