บลจ.ทิสโก้ เล็งปีหน้าออกทริกเกอร์ฟันด์ 6 กอง เป้ากำไร 5% รับตลาดผันผวน

“สาห์รัช” เผยปี 2562 มีแผนออกทริกเกอร์ฟันด์ รวม 6 กองทุน ตั้งเป้ากำไร 5% เชื่อเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับตลาดผันผวน แนะนักลงทุนเลือกลงทุน-กระจายความเสี่ยงมากขึ้น

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ กล่าวว่า ในปี 2562 มีแผนที่จะออกกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ (Trigger Fund) ทั้งหมด 6 กองทุน โดยแต่ละกองทุนจะตั้งเป้าทำกำไรไม่สูงนัก ประมาณ 5% ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

“ปีหน้าทริกเกอร์ฟันด์มาแน่นอน เพราะตลาดจะแกว่ง เราพยายามจะออกให้ได้ 2 เดือนครั้ง แต่จะคาดหวังผลตอบแทนเกิน 10% คงจะลำบาก เพราะฉะนั้นคงตั้งเป้าหมายกำไรไว้ที่ 5%” นายสาห์รัช กล่าว

นอกจากนี้ ยังแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในปี 2562 สำหรับนักลงทุนว่า ควรใช้ความระมัดระวังในเลือกลงทุนให้มากขึ้น (Selective Buy) เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง พร้อมให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตลงทุน ด้วยการเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท (Asset Allocation) เพื่อลดความผันผวนและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

“การลงทุนที่แนะนำ คือ หุ้นญี่ปุ่น หุ้นไทย หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ หุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ และกองทุนที่มีการกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย” นายสาห์รัช กล่าว


ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ยังน่าลงทุน เพราะมีปัจจัยบวกที่สำคัญรออยู่ คือ การดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง และราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ไม่แพง

ขณะที่ ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากข่าวการเลือกตั้ง เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และค่าเงินบาทที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ


หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ (Healthcare) น่าสนใจ เนื่องจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีรายได้ที่ไม่ผันผวนนักเพราะธุรกิจมีความสัมพันธ์กับวัฏจักรของเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย และรอบนี้กลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน


หุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ ที่ผลประกอบการยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตได้ดี อีกทั้งคาดว่าจะได้รับผลดีจากดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ แนะนำกองทุนเด่น 5 กองทุน ได้แก่

1.กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล เฮลธ์แคร์ สตาร์ พลัส (TGHSTARP) ลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่มีศักยภาพสูงทั่วโลก

2.กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN) ลงทุนในหุ้นกลุ่มการเงินในสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น

3.กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ (TISCOJP) ลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่คาดว่าเป็นตลาดที่ได้รับผลดีจากการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่อง เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว และราคาหุ้นถือว่าไม่แพง

4.กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF) เน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนได้ตามสถานการณ์

5. .กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล อินคัม พลัส (TGINC) ลงทุนสินทรัพย์หลายประเภททั่วโลกเช่น ตราสารหนี้โลก หุ้นโลก รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ

6.กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส (TINC) ลงทุนสินทรัพย์หลายประเภท ในประเทศเป็นหลัก เช่น ตราสารหนี้ไทย หุ้นไทย รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ