“สยามสปอร์ต” แจงสมาคมฟุตบอลฟ้องคดียังไม่ถึงที่สุด

“สยามสปอร์ต ซินดิเคท” แจงกรณีสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยื่นฟ้องแพ่งบริษัทฯ กรณีสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์ถ่ายทอดฟุตบอล คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล ยันบริหารกิจการด้วยระบบธรรมาภิบาล

บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT) ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2561 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ยื่นฟ้องบริษัทฯ เป็นคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง คดีหมายเลขดำที่ ทป. 179/2561 ที่อ้างถึง 1. และได้ทราบจากสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่ปรากฏโดยทั่วไปว่าสมาคมฯจะมีหนังสือถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ดำเนินคดีกับ บริษัทฯ ตามหนังสือที่อ้างถึง 2. นั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ข้อพิพาททุกคดีที่อ้างถึง เป็นกรณีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับบริษัท ซีนิเพล็กซ์ จำกัด (บริษัทในกลุ่มทรูวิชั่นส์ กรุ๊ปTVG) ได้กระทำการโต้แย้งสิทธิต่อบริษัทฯ ในสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์ ฉบับที่ 1 ฤดูกาลแข่งขัน 2556-2560 สัญญาบริหารสิทธิประโยชน์

ฉบับที่2 ฤดูการแข่งขัน 2561-2565 และ สัญญาถ่ายทอดเสียงและภาพการแข่งขันฟุตบอลฯ ฤดูการแข่งขัน 2557-2559 (วงเงินสัญญา 1,800,000,000 บาท) ฤดูการแข่งขัน 2560-2563 (วงเงินสัญญา 4,200,000,000 บาท) ซึ่งทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย บริษัทฯ จึงได้ให้การต่อสู้ในคดีที่อ้างถึง 3 และได้ยื่นฟ้องในคดีที่อ้างถึง 4 เรียกค่าเสียหายจาก สมาคมฯ และบริษัท ซีนิเพล็กซ์ จำกัด รวมเป็นเงิน 1,401,220,807.15 บาท พร้อมให้ปฏิบัติตามสัญญาถ่ายทอดเสียงและภาพฯ ในฤดูการแข่งขัน 2560-2563 โดยให้ชำระเงินตามสัญญา จำนวน 3,900,000,000 บาท ให้กับบริษัทฯ ซึ่งทั้งสองคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

ในการสืบพยานทั้งสองคดีนี้ บริษัทฯได้นำเสนอข้อเท็จจริง ทางการเงินที่ถูกต้องในการบริหารกิจการ ปี 2556-2557, 2557-2558 ตามงบการเงินที่ได้นำเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปแล้ว ต่อมาสมาคมฯ จึงได้นำพยานเอกสารที่บริษัทฯเสนอต่อศาลระหว่างพิจารณานำมาฟ้องเป็นคดีใหม่ตาม คดีหมายเลขดำที่ ทป.179/2561 ที่อ้างถึง 1. ซึ่งข้อเท็จจริงเดียวกันที่เป็นข้อพิพาทในสาระสำคัญต่างๆตามสัญญา เป็นข้อหาหรือฐานความผิดเดียวกันทั้งสองคดี ที่บริษัทฯได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลไปก่อนแล้วทั้งสองคดี

บริษัทฯ จึงขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯได้บริหารกิจการด้วยระบบธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์สุจริตในการบริหารสิทธิประโยชน์ให้กับสมาคมฯ โดยบริษัทฯได้บริหารสิทธิประโยชน์ไปตามสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาให้กับสมาคมฯและบรรดาสโมสรสมาชิก ด้วยการบริหารที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบความถูกต้องในการบริหารสิทธิประโยชน์มาโดยตลอด โดยสมาคมฯ และบรรดาสโมสรสมาชิกไม่เคยร้องเรียนหรือกล่าวหาการบริหารสิทธิประโยชน์ของบริษัทฯ แต่ประการใด การบริหารสิทธิประโยชน์ของบริษัท มิได้มีเจตนาซ่อนเร้น ตามข้อหาในคำฟ้องใหม่ของสมาคมฯแต่อย่างใด ซึ่งในเรื่องข้อพิพาทตามสัญญาอยู่ระหว่างการพิจารณาพิพากษาของศาล คดียังไม่ถึงที่สุด จึงต้องรอคำวินิจฉัยหรือค าพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ชี้ขาดข้อพิพาทให้เป็นที่สุด

การกระทำของสมาคมฯ ที่ทำหนังสือร้องเรียนถึงก.ล.ต.เป็นข้อเท็จจริงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาพิพากษาของศาล บริษัทฯ จึงขอเรียนชี้แจงข้อพิพาทตามสัญญาที่เกิดขึ้นระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯกับพวก และรวมถึงการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป และหากผลคดีทั้งสามคดีมีผลเป็นประการใดแล้ว บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบในโอกาสต่อไป