JFIN Coin เคาะวันแรกร่วงหนัก 54%

JFIN Coin เทรดวันแรกร่วงหนัก 54 % กดหุ้นแม่ JMART รูดตาม

โทเคน JFIN Coin ซึ่งเป็น ICO สายพันธุ์ไทยตัวแรก ที่ออกโดยบริษัท เจ ฟินเทค บริษัทลูกของบริษัท เจ มาร์ท ( JMART ) ซึ่ง JFIN Coin เปิดซื้อขายครั้งแรกที่ Coin Asset ด้วยราคา 6.45 บาท ลดลง 0.15 บาท หรือ 2.27 % จากราคาจอง 6.60 บาท

หลังจากนั้นแรงขายที่มีต่อเนื่อง ฉุดราคา JFIN Coin เวลา 15.30 น. ต่ำสุดที่ 3 บาท ลดลง 3.60 บาท หรือ 54.54 % ก่อนเด้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อเวลา 15.50 น. อยู่ที่ 3.50 บาท มูลค่าซื้อขายเบาบาง 1.2 ล้านบาท

ทั้งนี้ JFIN Coin เสนอขายสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ICO : Initial Coin Offering) ในวันที่ 16 ม.ค.61 จำนวนทั้งหมด 300 ล้านโทเคน ราคาโทเคนละ 6.60 บาท และการเปิดขายรอบแรก 100 ล้านโทเคนในวันที่ 14 ก.พ.61 ขายหมดภายใน 55 ชม. เพื่อนำไปใช้พัฒนาระบบสินเชื่อดิจิทัลแบบไร้ตัวกลาง (JFIN DDLP)

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจาก JFIN Coin ดังกล่าว ฉุดหุ้นแม่ JMART ( เจ มาร์ท ) ร่วงแรงเช่นกัน เปิดที่ 12.30 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ระหว่างวันลงต่ำสุด และปิดที่ระดับ 11.30 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 8.13 %

ทางด้าน นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส (JVC)บริษัทย่อย JMART กล่าวว่า การที่ราคา JFIN Coin เปิดต่ำกว่าราคาจอง อาจจะเนื่องมาจาก นักลงทุนยังซื้อขายด้วยอารมณ์เป็นหลัก ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาพอสมควร แต่เชื่อว่าหลังจากมีการเริ่มระบบ DDLP แล้ว จะทำให้ราคามีความเสถียรมากขึ้น

“DDLP เป็นแพลตฟอร์มการให้บริการการกู้ยืมที่อยู่บนระบบบล็อคเชน มีความปลอดภัยสูง คาดระบบจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2562 จะนำไปใช้ในธุรกิจสินเชื่อของบริษัท เจ ฟินเทค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ และเชื่อมั่นว่า ด้วยจุดแข็งจาก Ecosystem ในกลุ่มเจมาร์ท จะสนับสนุนให้ JFIN ที่ออกมาในครั้งนี้ ได้รับความเชื่อมั่น มีเสถียรภาพ และเจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ ยังเพิ่มกระดานเทรดใน Cash2Coins ในวันที่ 9 พ.ค. 2561

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาสแรก อาจจะปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทย่อย คือ บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) และบริษัท เจ ฟินเทค มีภาระต้องตั้งสำรองเพิ่ม เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) แต่คาดว่าภาระการตั้งสำรองจะเริ่มกลับสู่สภาวะปกติในไตรมาสที่ 2 และปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และบริษัทคาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีในปี 2562 เมื่อทุกอย่างลงตัว