KTAM เสิร์ฟ 2 กองทุนตราสารหนี้ ชู 1 ปียิลด์ 1.80%

บลจ.กรุงไทย ออกเทอมฟันด์ 2 กองทุนใหม่ลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ อายุ 12 เดือน ผลตอบแทน 1.80% ต่อปี ส่วน 6 เดือนอยู่ที่ 1.60% ต่อปี

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 206 ( KTFF206) อายุโครงการ 12 เดือนและกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 210 ( KTFF210 ) อายุโครงการ 6 เดือน เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 ธ.ค.2561 เน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อเป็นการเลือกให้กับนักลงทุนในการเลือกลงทุนตามระยะเวลาที่เหมาะสมกับตนเอง

กองทุน KTFF 206 และกองทุน KTFF 210 เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Agricultural Bank China ,Abu Dhabi Commercial Bank ,Al Ahli Bank ,บัตรเงินฝาก China Merchants Bank , บัตรเงินฝาก Qatar National Bank และพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผลตอบแทนของกองทุน KTFF206 ประมาณ 1.80% ต่อปี ส่วนกองทุน KTFF210 ผลตอบแทนประมาณ 1.60%ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี ณ ที่จ่าย

สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หลังตัวเลข GDP ของไตรมาส 3 ประกาศออกมาอยู่ที่ 3.3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ในขณะที่อัตราผลตอบของตราสารหนี้ได้รับข่าวแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไปแล้วและความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงจากกระแส Risk off ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา โดยตลาดตอบรับการประมูลพันธบัตรรุ่นอายคงเหลือ 14 ปีและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุคงเหลือ 2 ปี ค่อนข้างดี

ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดซื้อสุทธิ จำนวน 11,108 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนของตราสรหนี้ อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps มาอยู่ที่ 1.89% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps. มาอยู่ที่ 2.29% ต่อปีและอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps. มาอยู่ที่ 2.73%

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุตามแรงซื้อจากกระแส Risk off เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหลังราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่ม IT และกลุ่มการเงินและความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าหลังการประชุม APEC ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 2.81% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 3 bps. มาอยู่ที่ 2.87% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 4 bps มาอยู่ที่ 3.04% ต่อปี