บลจ.กสิกรไทย ปันผลกองหุ้นสหรัฐฯ-จีนกว่า 197 ล้าน

บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล และกองทุนเค ไชน่าหุ้นทุน พร้อมกัน 14 ธ.ค.นี้มูลค่ากว่า 197 ล้านบาท มองเชิงบวกตลาดหุ้นจีน เชื่อเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี แต่ผันผวนสูง เหตุตลาด A share สัดส่วนรายย่อยซื้อขายสูงเล่นเก็งกำไรระยะสั้น

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีกำหนดจ่ายปันผลกองทุนต่างประเทศ จำนวน 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USXNDQ-A(D)) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2561 – 30 พ.ย.2561 และกองทุนเปิดเค ไชน่าหุ้นทุน (K-CHINA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ก.ย.2561 – 30 พ.ย.2561 โดยทั้ง 2 กองทุนจะจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 30 พ.ย.2561 และมีกำหนดจ่ายพร้อมกันในวันที่ 14 ธ.ค.2561 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 197.81 ล้านบาท

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-USXNDQ-A(D) มีการจ่ายปันผลทุกปีนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน รวมทั้งสิ้น 21 ครั้ง เป็นเงินอัตรา 7.10 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 ธ.ค. 60 – 30 พ.ย. 2561) กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 5.72% ต่อปี สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี และ 3 ปี อยู่ที่ 7.97% ต่อปี และ 13.18% ต่อปี ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 8.66% ต่อปี และ 13.34% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 61) ส่วนมุมมองต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนเป็นระลอกจากประเด็นความขัดแย้งทางการค้ากับประเทศคู่ค้าต่างๆ โดยเฉพาะจีน และควรจับตาทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้วย

สำหรับกองทุน K-CHINA นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 17 ครั้ง รวมเป็นเงินอัตรา 4.45 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 ธ.ค. 60 – 30 พ.ย. 2561) กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 5.60% ต่อปี สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี และ 3 ปี อยู่ที่ -7.71% ต่อปี และ 8.51% ต่อปี ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -11.13% ต่อปี และ 9.18% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.2561)

“บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน โดยมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเพิ่มสภาพคล่องในระบบโดยลดสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน นอกจากนี้การที่ MSCI ได้รวมหุ้นจีน A share เข้าไปคำนวณในดัชนีตลาดเกิดใหม่ นับเป็นอีกปัจจัยที่จะดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ตลาดหุ้นจีนในช่วง 10 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามเนื่องจากตลาดหุ้นจีน A share มีนักลงทุนรายย่อยในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง จึงอาจเกิดความผันผวนจากการซื้อขายเก็งกำไรในระยะสั้นได้” นายนาวิน กล่าว