หุ้นสัปดาห์หน้าจับตาเฟด-กนง. จีดีพีสหรัฐฯ

บล.กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์หน้า แนวรับแรก 1,600 จุด แนวต้าน 1,620 จุด จับประชุมเฟด-กนง. สหรัฐรายงานตัวเลขจีดีไตรมส 3/61 “ญี่ปุ่น-อังกฤษ” ประชุมนโยบายการเงิน ส่วนค่าเงินบาทธนาคารกสิกรไทย มองกรอบ 32.60-33.00 บาทต่อดอลลาร์

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (17-21 ธ.ค.) มีแนวรับที่ 1,600 และ 1,585 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,620 และ 1,630 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของเฟด (18-19 ธ.ค.) รวมถึงการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (19 ธ.ค.)

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/61 ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รวมถึงรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางอังกฤษ

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,609.45 จุด ลดลง 2.46% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 2.28% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 44,188.00 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 3.33% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 384.24 จุด

“ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายเกือบตลอดสัปดาห์จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศแกนหลักของโลก และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ฟื้นตัวขึ้นในระยะสั้นๆ หลังความกังวลดังกล่าวคลี่คลายลง ก่อนจะร่วงลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังมีรายงานว่า ปตท.สผ. ชนะการประมูลทั้งแหล่งบงกช-เอราวัณ ด้วยค่าคงที่ราคาก๊าซซึ่งถือว่าต่ำกว่าคาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย”บล.กสิกรไทย ระบุ

ด้านค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (17-21 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 32.60-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดในประเทศน่าจะมีจุดสนใจอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (19 ธ.ค.) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่รอติดตาม ประกอบด้วย ผลการประชุม FOMC และสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าของธนาคารกลางสหรัฐฯ (18-19 ธ.ค.) ผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษ รวมถึงสถานการณ์ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และประเด็น BREXIT

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนพ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนต.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2561

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันที่ (11-14 ธ.ค.) อยู่ในกรอบแคบและอยู่ที่ระดับ 32.77 เทียบกับระดับ 32.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ธ.ค.)