PTTEP ทุ่มงบ 5 ปี 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์

ปตท.สผ.เปิดแผนใช้เงินลงทุน 9,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การดำเนินงาน 6,795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างความต่อเนื่องผลิตก๊าซธรรมชาติ มองหาโอกาสลงทุนสร้างมูลค่าเพิ่มและธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ส่วนปี 2562 ใช้งบรวม 3,256 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันเท่ากับ 318 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมหรือปตท.สผ.(PTTEP) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงแผนการดำเนินงานประจำปี 2562 ว่า มีการประมาณการรายจ่ายรวมทั้งสิ้น 3,256 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แบ่งเป็นการลงทุน จำนวน 1,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการดำเนินงาน จำนวน 1,416 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมคาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันเท่ากับ 318 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2562 ปตท.สผ.ให้ความสำคัญกับแนวทางหลัก คือ การรักษาปริมาณการผลิตจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญในประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้แก่ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย และโครงการซอติก้า ได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 1,159 ล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐ


ส่วนการเพิ่มปริมาณสำรองและปริมาณการผลิตในอนาคตด้วยการจัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 490 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพื่อผลักดันโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ โครงการเวียดนาม บี และ 48/95 และเวียดนาม 52/97 และโครงการคอนแทร็ค 4 (แหล่งอุบล) ไปสู่การตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย และการเร่งกิจกรรมการสำรวจเพื่อค้นหาทรัพยากร เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนจำนวน 191 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายในการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลสำหรับโครงการสำรวจในเมียนมาร์ และมาเลเซีย

“เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินงานตามแผน ปตท.สผ. ได้จัดทำแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2562 – 2566) ประมาณการรายจ่ายทั้งสิ้น 16,105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการลงทุนทั้งสิ้น 9,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายจ่ายดำเนินงาน จำนวน 6,795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะมีประมาณการการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันจากโครงการผลิตปัจจุบันรวม 1,484 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ทั้งนี้ ยังไม่รวมแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช “นายพงศธรกล่าว

นอกจาก ปตท.สผ. จะมุ่งเน้นกลยุทธ์เพื่อบริหารต้นทุนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ สร้างมูลค่าเพิ่มจากโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน พร้อมเดินหน้ารักษาความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติ และมองหาโอกาสขยายการลงทุนในพื้นที่ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่องแล้ว และยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวเพื่อพร้อมรับมือกับสภาพการดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่เปลี่ยนแปลงไป ผ่านการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ การต่อยอดการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในสายธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของ ปตท.สผ.

อ่านประกอบ

ฟิทช์ชี้ PTTEP ชนะประมูลเพิ่มปริมาณสำรอง-ผลิตกลุ่มปตท.