ชี้เป้าหุ้นปี 62 เพิ่มขึ้น 200 จุด ทุนนอกเข้า เน้นตัวใหญ่-ปันผลสูง

ปี 2561 หุ้นไทยติดลบ 10.82% ปิดที่ 1,563.88 จุด ชนะตลาดเอเชียหลายแห่ง ปีนี้นักวิเคราะห์จาก 4 บริษัทหลักทรัพย์ คาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเหนือ 1,700 จุด เทน้ำหนักเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศไหลเข้ามา กลยุทธ์การลงทุนเน้นตัวใหญ่และหุ้นปันผล

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทรีนีตี้ ตั้งเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปี 2562 ที่ระดับ 1,760 จุด พี/อี 14 เท่า กำไรต่อหุ้นปี 2562 ที่ 126 บาท ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากระดับปัจจุบันกว่า 13.5% กรณีเลวร้ายสุดคาดการณ์ที่ 1,500 จุด พี/อี 13 เท่า กำไรต่อหุ้นปีนี้ 116 บาท ราคาขณะนี้น่าสนใจเข้าลงทุนแล้ว แนะนำโฟกัสกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่จ่ายเงินปันผลสูงในดัชนี SETHD ในช่วง 4 เดือนแรก คาดว่าจะกลับมาเป็นปีที่ดีของตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง

“เราประเมินว่า 3 ปัจจัยมีโอกาสคลี่คลายลง และกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกิดใหม่ ได้แก่ ปัจจัยสงครามการค้า เงินดอลลาร์ลดการแข็งค่าหรือกลับมาอ่อนในปีนี้ และราคาน้ำมันกลับสู่สมดุล “บล.ทรีนีนี้ระบุ


บล.ไทยพาณิชย์คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในปี 2562 จะดีกว่าปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม โอกาสหากเศรษฐกิจสหรัฐะลอตัวลงแรงเกินไป เฟดอาจกลับมาเริ่มผ่อนคลายนโยบาย ส่งผลบวกต่อตลาดการเงิน แต่หากเฟดยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยจะป็นผลลบ เชื่อว่าเงินทุนต่างชาติจะเริ่มทยอยออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ มาที่ตลาดเกิดใหม่ และหุ้นเศรษฐกิจยุคใหม่ มาที่เศรษฐกิจเก่า เช่น การบริโภค สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เลือกหุ้นเชิงรับและเงินปันผล รองรับความผันผวน เน้นปลอดภัยไว้ก่อนในช่วงครึ่งปีแรก รอสัญญาณบวก เพื่อเพิ่มน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงครึ่งปีหลัง

กลยุทธ์เน้นหุ้นปลอดภัย ได้แก่ MINT ,ADVANC,CPALL, BGRIM,CPN, PTT, STEC, KTB ส่วนหุ้นปันผล คือ TISCO, KKP, TTW, GLOW หุ้นตัวเล็กเติบโตสูง DOD และสินทรัพย์ทางเลือกที่ให้เงินปันผลสูง CPNREIT ,BTSGIF, DIF, TFFIF


นายสรพล วีระเมธีกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดการณ์ดัชนีเป้าหมาย 1,743 จุด มองปัญหาการเมืองโลก ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ส่วนความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สะท้อนไปแล้วบางส่วน แต่ยังไม่หมด ทั้งตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และราคาทองคำ คาดว่าจะมีผลต่อหุ้นจนถึงเดือนก.พ. โดยมีมุมมองเป็นกลางต่อการเลือกตั้งไทย ส่วนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และพรรค Democrat สามารถครองคะแนนเสียงส่วนมากในสภาล่างได้ ก็เริ่มกดดันทรัมป์ อาจเห็นเม็ดเงินเริ่มทยอยไหลกลับภูมิภาคเอเชียอีกครั้งในครึ่งหลังของปี 2562

ปํญหาการเมืองโลก คาดว่ายังคงส่งผลต่อในครึ่งแรกปี 2562 โดยปีที่ผ่านมาถือเป็นการลงทุนที่ผิดคาดจากเมื่อต้นปีอย่างมาก ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากต้นปี ส่งผลให้หลายสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าในอัตราเร่ง ทำให้เห็นเม็ดเงินไหลออกอย่างมากและจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเม็ดเงินไหลออก ส่วนราคาน้ำมันดิบ ถูกกดดันทั้งจากฝั่งอุปสงค์และอุปทาน โดยเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมากองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)ปรับประมาณการจีดีพีสหรัฐและจีนลงเหลือ 2.5% และ 6.2% ตามลำดับ ส่งผลให้เกิดความกังวลอุปสงค์น้ำมันปีหน้าจะเติบโตต่ำกว่าประมาณการเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน

ส่วนบล.เอเซียพลัส คาดการณ์ดัชนีหุ้นปีนี้ที่ 1,795 จุด กำไรของบจ.จะเติบโต 3.3% ส่วนเงินทุนต่างประเทศมีโอกาสกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นครึ่งปีแรก หลังจากการเลือกตั้งมีความชัดเจน ส่วนผลกระทบจากสงครามการค้า สะท้อนผ่านการปรับฐานของตลาดหุ้นโลกหลายแห่งไปมากพอสมควรแล้ว เชื่อว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2562 น่าจะมีทิศทางดีขึ้น โดยแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยเป็น 50% จากเดิม 40%

ภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนสูงในปี 2561 ส่งผลให้นักลงทุนใช้เครื่องมืออนุพันธ์ในการลงทุนมากขึ้น ตลาดหลักทร้พย์แห่งประเทศไทย รายงานสถิติปริมาณการซื้อขายรวมอยู่ที่ 104,422,200 สัญญา เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2560 ที่มีปริมาณการซื้อขาย 78,990,574 สัญญา หรือเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 31% เป็น 426,213 สัญญา ส่วนสถานะคงค้าง (ณ 27 ธ.ค.2561) มีจำนวน 2,513,152 สัญญา จากสิ้นปี 2560 ที่ 2,813,036 สัญญา หรือลดลง 11%

ปริมาณการซื้อขาย SET50 Index Futures เติบโตมากที่สุดถึง 62% มาที่ 42,544,040 สัญญา จากปี 2560 มีปริมาณการซื้อขาย 26,321,073 สัญญา

ส่วน Single Stock Futures มีปริมาณการซื้อขาย 55,332,444 สัญญา เพิ่มขึ้น 47,480,762 สัญญาหรือเพิ่มขึ้น 17% และ SET50 Index Options มีปริมาณการซื้อขาย 1,362,520 สัญญา เพิ่มขึ้น 26% จากที่มีการซื้อขาย 1,081,681 สัญญา

ทางด้านการซื้อขายทองคำล่วงหน้า Gold Futures มีปริมาณการซื้อขาย 4,268,013 สัญญา เพิ่มจาก 16% จากจำนวน 3,691,785 สัญญา Gold-D Futures มีปริมาณการซื้อขาย 106,443 สัญญา เพิ่มขึ้นถึง 84% จากจำนวน 57,770 สัญญา และ Gold Online Futures (เริ่มซื้อขายเมื่อ 5 พ.ย.2561) มีจำนวน 88,411 สัญญา