“บัวหลวง”ชี้เก็งกำไร Block Trade พุ่งเท่าตัว บริหารความเสี่ยงหุ้นปรับฐาน

บล.บัวหลวง ชี้นักลงทุนนิยมบริหารความเสี่ยง เพิ่มผลตอบแทนช่วงตลาดหุ้นปรับฐานลง 4.75% ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ผ่าน Block Trade เพิ่มขึ้น 114.58% จากเดือนก่อน หุ้นอ้างอิงยอดนิยม PTTEP-AOT-TRUE

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง ในฐานะผู้ให้บริการธุรกรรม Block Trade ที่มีส่วนแบ่งการตลาด เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขาย Block Trade SSF ในเดือนธ.ค.2561 ระดับ 11.88% เปิดเผยว่า ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ธุรกรรม Block Trade ถือเป็นหนึ่งเครื่องมือการลงทุนที่นักลงทุนใช้บริหารความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับฐานลง 4.75% จากความวิตกกังวลสภาครองเกรสอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ และสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา

บรรณรงค์ พิชญากร

ปริมาณการซื้อขายธุรกรรม Block Trade SSF สูงถึง 4,624,321 สัญญา คิดเป็นประมาณ 3,124 ล้านบาทเฉลี่ยต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 114.58% มูลค่าการซื้อขาย (คำนวณจากราคาปิด) ประมาณ 56,238 ล้านบาท

สำหรับหุ้นอ้างอิงที่ทำธุรกรรม Block Trade ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีทั้งหมด 93 หุ้นโดย หุ้นอ้างอิงที่ได้รับความนิยมสูงสุด อันดับหนึ่ง คือ หุ้นอ้างอิง PTTEP ที่มีสัดส่วนการซื้อขายสูง 6.47% เกิดจากการเข้ามาเก็งกำไร หลังบริษัทชนะประมูลโครงการบงกช (ถือหุ้น100%) และโครงการเอราวัณ (ถือหุ้น60%) แต่ยังมีปัจจัยกดดันความกังวลทางด้านความต้องการใช้น้ำมันดิบในปี 2562 ที่อาจชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก

อันดับสอง คือ หุ้นอ้างอิง AOT ที่มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 5.96% โดยนักลงทุนมองประเด็นบวกจากการประมูล Duty Free รอบใหม่ และราคาหุ้นได้รับรู้ถึงตัวเลขท่องเที่ยวในช่วงก่อนหน้ามาแล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างมองรอบใหม่ของการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยในช่วงถัดไป

อันดับสาม คือ หุ้นอ้างอิง TRUE ที่มีสัดส่วนการซื้อขาย 5.94%โดยนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร หลังจากราคาหุ้นตกในช่วงที่ผ่านมา จากความกังวลเรื่องข้อพิพาทระหว่างTRUE กับ TOT และหลังจากประกาศผลการดำเนินงานรายงานกำไรปกติเป็นบวกครั้งแรก จากการบันทึก Deferred Tax ซึ่งเกิดจากการขายสินทรัพย์ให้ DIF จำนวน 394 ล้านบาท

“กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค กลุ่มธนาคาร และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ถือเป็น 3 กลุ่มยอดนิยมในหมู่นักเก็งกำไร Block Trade สะท้อนผ่านมูลค่าการซื้อขายในเดือนธันวาคมที่อยู่ระดับ 19.23% 14.82% และ13.19% ตามลำดับ” นายบรรณรงค์ กล่าว

นายบรรณรงค์ กล่าวว่า ช่วงฤดูกาล Rollover ของ Series Z18 หมดอายุที่ผ่านมาบวกกับความผันผวนของตลาด ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายของ SSF Block Trade ไม่ได้ลดลงตามตลาดมากนัก ทำให้เห็นว่า นักลงทุนรุ่นใหม่ๆ ต่างก็หาเครื่องมือในการใช้บริหารความเสี่ยง เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและบริหารจัดการพอร์ตตามสภาวะตลาดที่เกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ ซึ่ง SSF Block Trade ถือเป็นโปรดักส์ทางเลือกที่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง