SGP ขายหุ้นกู้ 3 พันล้าน อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 4.10% เปิดจอง 25 ม.ค.

สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์” เตรียมขายหุ้นกู้ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% โดยคาดว่าจะเสนอขายในวันที่ 25-29 ม.ค.นี้ นำเงินชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด ด้านหุ้นกู้เรทติ้ง BBB+

นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) ผู้จำหน่ายก๊าซแอลพีจีอันดับ 2 ในประเทศไทยครอบคลุมทั้งภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรมและผู้จัดจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกได้แก่ จีน สิงค์โปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2562 มูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2565 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% คาดว่าจะสามารถเปิดจองซื้อหุ้นกู้ได้ระหว่างวันที่ 25-29 ม.ค.2562

ศุภชัย วีรบวรพงศ์

พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้ง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ,ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ และแต่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนทั่วไป จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุกๆ 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ซึ่งหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2561

ทั้งนี้ แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ถ้าบริษัทได้รายละเอียดที่แน่นอนบริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนทราบอีกครั้งหนึ่ง

“วัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 3,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม Stable จากบริษัททริส เรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย รวมถึงการมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง และฐานลูกค้าที่กระจายตัวกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของธุรกิจโดยรวมอาจสูงขึ้นจากการดำเนินงานในต่างประเทศ จากความผันผวนของราคา LPG ในตลาดโลกมากขึ้น”นายศุภชัยกล่าว