TMBAM ผนึก “อีสท์สปริง” เติมเต็มพอร์ตนักลงทุนไทย ประเดิม “รีท-อสังหาฯ เอเชีย แปซิฟิค”

หลังจาก “อีสท์สปริง อินเวสท์เม้นท” บริษัทจัดการลงทุนในภูมิภาคเอเชียของกลุ่มบริษัท พรูเด็นเชียล ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย หรือ TMBAM สัดส่วน 65% จากธนาคารทหารไทย (TMB) ในช่วงเดือนต.ค.2561 จึงพร้อมเปิดตัว “กองทุนเปิดทีเอ็มบี อีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (TMB-ES-APPF)” ภายใต้การทำงานร่วมกันเป็นกองทุนแรก หวังเพิ่มโอกาสในการลงทุนเติมเต็มและจัดทัพลงทุนของผู้ลงทุนไทยได้เพิ่มขึ้น

ชู “รีท-อสังหาฯ” มีกระแสเงิน ช่วยกระจายเสี่ยง

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเปิดตัว กองทุนเปิดทีเอ็มบี อีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible เสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 21-29 ม.ค.2562 มีนโยบายลงทุนในในทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในหมวดอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิก โดยกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของอีสท์สปริง ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุน

สมจินต์ ศรไพศาล

“บริษัทฯ และอีสท์สปริงได้ทำงานร่วมกันใช้ความสามารถในท้องถิ่นและภูมิภาคผสานกับความเป็นมืออาชีพระดับสากล พัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ระดับโลกที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการลงทุนของผู้ลงทุนชาวไทย ซึ่งจากสภาวะตลาดในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างมาก ผู้ลงทุนไทยต่างมองหากองทุนที่จะสามารถลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว รวมทั้งมีโอกาสในการได้รับกระแสเงินสด บริษัทฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญของสินทรัพย์ทางเลือกอย่างอสังหาริมทรัพย์ ในการช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน”นายสมจินต์ กล่าว

สำหรับกองทุนดังกล่าวจะเพิ่มความหลากหลายในการลงทุนไปยังภูมิภาคแห่งการเติบโตอย่างเอเชียแปซิฟิก เพื่อตอบโจทย์การลงทุนและเติมเต็มพอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนไทย คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งพิสูจน์ได้จากความสำเร็จของกองทุนเปิดทหารไทย พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม พลัส (TMBPIPF) มีนโยบายลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ในไทยและสิงคโปร์ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา จนมีขนาดกองทุนสูงถึง 3.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่กองทุนใหม่นี้จะขยายการลงทุนได้มากขึ้นและมีความยืดหยุ่นในการลงทุน

ชี้ลงทุน 3 ปี ผลตอบแทน 6-8% ต่อปี

Mrs Pearly Yap Portfolio Manager Eastspring Investments เปิดเผยว่า กองทุนมีแผนเข้าลงทุนใน REIT สัดส่วน 65% และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 36% เน้นลงทุนในประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ส่วนไทยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาบริษัทบางแห่ง โดยคาดการณ์อัตราผลตอบแทนประมาณ 6-8% ต่อปี ก่อนหักค่าใช้จ่าย สำหรับการลงทุนระยะยาว 3 ปีขึ้นไป

“การลงทุน REIT ให้รายได้ในรูปกระแสเงินสดค่อนข้างเสถียร ทำให้ความผันผวนของพอร์ตน้อย โดยมีอัตราผลตอบแทนของ REIT ในภูมิภาคเอเชียประมาณ 4.5-6.5% ต่อปี ส่วนหุ้นอสังหาริมทรัพย์จะให้โอกาสของการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะให้ผลตอบแทน 2-3% จึงทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้หลากหลาย ทำให้ความเสี่ยงลดลงและโอกาสเพิ่มผลตอบแทนจากการเติบโตของราคาหุ้น ซึ่งในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน เนื่องจากราคาลงมามาก แม้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูง” Pearly Yap กล่าว


ปี 2558-2561 ภูมิภาคเอเชียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจดีกว่าภูมิภาคอื่นอย่างมีนัยสำคัญ และยังมีแนวโน้มที่ดีจากการขยายตัวของสังคมเมืองที่ขยายตัวขึ้น ทำให้เกิดดีมานด์ในที่อยู่อาศัย ช็อปปิ้งในศูนย์การค้า ซึ่งการเติบโตของกลุ่มคนทำงาน ส่งผลให้อัตราค่าจ้างค่อยๆ ดีขึ้นกว่าภูมิภาคอื่น เป็นปัจจัยขับเคลื่อนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่คิดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ช้าลงนั้นจะส่งผลกระทบทำให้เกิดฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ออกมาตรการคุมการขยายตัวของสินเชื่อไม่ให้ร้อนแรงจนเกินไป รวมถึงหลายประเทศก็ออกมาตรการดูแลเช่นกัน

“อีสท์สปริง” ยกหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ-เอเชีย-รีท น่าสนใจ

สำหรับมุมมองการลงทุนของกลุ่มอีสท์สปริงมองว่า ตลาดหุ้นปี 2561 ปรับตัวผันผวนรุนแรง ตอบรับเศรษฐกิจสหรัฐไปแล้วและเผชิญความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จึงมองภาพรวมในปี 2562 คาดว่าตลาดหุ้นจะกลับมาให้ผลตอบแทนดีขึ้น จากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นโยบายการเงินลดความเข้มงวด โดยต้องติดตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1-2 ครั้งในปีนี้

อีสท์สปริง มีมุมมองบวกต่อหุ้นสหรัฐ เน้นหุ้นเทคโนโลยี หลีกเลี่ยงตลาดหุ้นยุโรป ส่วนตราสารหนี้ มีมุมมองบวกตราสารหนี้ในสหรัฐและตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงในเอเชีย รวมถึง REIT เอเชีย โดยมองลบต่อตราสารหนี้ Investment Grade และมีมุมมองบวกต่อค่าเงินอินโดนีเซีย แต่มีมุมมองลบ ต่อเงินยูโร และเงินไต้หวัน

สุดท้ายบทบาทของ TMBAM ภายใต้อีสท์สปริงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย ยืนยันว่า จากที่ผ่านมาทำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จทางการเงิน สามารถจัดทัพลงทุนมุ่งวัตถุประสงค์ การมีอีสท์สปริง เป็นพันธมิตรใหม่ จะช่วยเพิ่มมุมมองการลงทุนการและเครื่องมือการลงทุน รวมทั้งการที่สามารถจะเข้าใจนักลงทุนมากขึ้นและมีกลุ่ม Global Investor มาช่วย โดยสไตล์ของอีสท์สปริงเป็น Investor Value ให้ความสนใจการลงทุนระยะยาว สนใจลงทุนระดับราคาที่คุ้มค่า จึงมองตลาดเกิดใหม่และเอเชียที่ปรับตัวลงมาจนกลับมาน่าสนใจ

ในแง่ของการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ในปี 2562 จะดีกว่าปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงทำให้ AUM ปิดสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.8 แสนล้านบาท โดยแผนออกกองทุนใหม่ในปีนี้จะครอบคลุมการลงทุนมากขึ้น รวมทั้งจะมีการเปลี่ยนแปลงโลโก้แบรนด์เป็น TMBAM eastspring ในเร็วๆ นี้