DBS ยกระดับบริการ เป้าหมายลูกค้าได้ผลตอบแทนยั่งยืน

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ยืนเป้ามาร์เก็ตแชร์ 5% พัฒนาบริการ เสนอแนะการลงทุนเชิงกลยุทธ์ นำเสนอสินค้าหลากหลาย ชู AI เพิ่มประสิทธิและขยายฐานกลุ่มลูกค้า ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์รอคำตอบจากตลาดหลักทรัพย์ คำนิยามชัดเจนของ AI แยกการซื้อขายออกจากระบบอื่น กำกับดูแลง่ายขึ้น

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ[/caption] ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป เรื่องส่วนแบ่งการตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์มีความสำคัญน้อยลง ดีบีเอสจะสร้างความแตกต่าง และความหลากหลายในการให้บริการ หันมาพัฒนาคำแนะนำการลงทุนในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน และใช้ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความหลากหลายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยยังคงยืนเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์ที่ 5 % ต่อไป

ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ

“ไม่ต้องกลัวเรื่องคนในอุตสาหกรรมนี้ จะตกงาน เพราะมีไม่เพียงพออยู่แล้ว เพียงแต่ทุกคนจะต้องยกระดับความรู้ และนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มศักยภาพ ปีนี้เราจะใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาเสริมคำแนะนำ และยังสนับสนุนให้มีการลงทุนในสินค้าที่หลากหลาย เช่น ETF ที่มีจำนวนมาก ลงทุนง่าย ไม่จำกัดการลงทุนในหุ้น หรือในประเทศเท่านั้น สามารถเลือกลงทุนได้ทั่วโลก รวมถึงกองรีท หรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าที่ให้อัตราผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก เหมือนการซื้ออพาร์ทเม้นท์ในลอนดอนหรือซื้อคอนโดมิเนียมมาให้เช่า พร้อมมีเป้าหมายเพิ่มผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ ๆ “นางภัทธีรากล่าว

นอกจากนั้นภายในปี 2562 จะเห็นการเปิดตัวของตลาดซื้อขายสินทรัพย์ประเภทดิจิทัล นอกเหนือจากการซื้อขายหุ้น ซึ่งตลาดของไทยมีความน่าเชื่อถือ และมีแหล่งเงินทุนเพียงพอ

สำหรับกรณีที่มีการนำระบบ AI มาใช้ในการลงทุนนั้น นางภัทธีรา กล่าวว่า ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้มีการพูดคุยกับให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการกำหนดคำนิยามชัดเจนของ AIว่าอะไรใช่หรือไม่ใช่ เพราะบางครั้งเป็นเพียงเครื่องมือในการจับสัญญาณทางเทคนิคเท่านั้น การแยกประเภทการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบ AI ออกมาให้ชัดเจนจากการซื้อขายผ่านระบบอื่น ๆ คาดว่าจะได้เห็นในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์สามารถกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันทางบริษัทหลักทรัพย์จะต้องมีระบบป้องกันตัวเองในระดับหนึ่ง ซึ่งในต่างประเทศไม่มีตลาดหลักทรัพย์ที่ไหนปล่อยให้ใช้อย่างเต็มที่