ธนาคารธนชาต ตั้งเป้ากำไรปีนี้โตอีก 6-7%

“ประพันธ์” ซีอีโอใหม่ ธนาคารธนชาต ประกาศเป้าหมายกำไรปี 2562 เพิ่ม 6-7% พร้อมรุกสินเชื่อรถยนต์ต่อเนื่องมั่นใจโตได้ 10% เพิ่มสัดส่วนออมทรัพย์และกระแสรายวันเป็น 50% ยอมรับคณะกรรมการธนาคารศึกษาเรื่องควบรวมจริง แต่ยังไม่มีข้อสรุป

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต กล่าวในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่า ในปี 2562 ธนาคารมีเป้าหมายสร้างผลกำไรเติบโตประมาณ 6-7% จากปี 2561 ที่มีกำไร 14,703 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเติบโต 5 ปีติดต่อกัน

“ปี 2561 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 14,703 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยเฉลี่ยเติบโตปีละ 10% ขณะที่ตัวเลขหนี้เสีย (NPL Ratio) คงที่ 2.3% ถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรม แต่ปีนี้กำไรอาจจะโตไม่ถึงเลข 2 หลัก แต่ก็ใกล้เคียง น่าจะเติบโตได้เฉลี่ย 6-7%” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า แผนงานในปี 2562 ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ (1) พัฒนาสินเชื่อให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ (2) การรักษาความเป็นที่ 1 ในตลาดสินเชื่อรถยนต์ โดยตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อรถยนต์ประมาณ 10% จากพอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2561 อยู่ที่ 4.2 แสนล้านบาท

(3) เพิ่มบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน (CASA) มากกว่า 10% และเพิ่มสัดส่วน CASA ต่อเงินฝากเพิ่มเป็น 50% จาก 48% ในปัจจุบัน และ (4) ขยายสัดส่วนธุรกิจลูกค้ารายย่อย ซึ่งจากกลยุทธ์และทิศทางบริหารงานที่คมชัดดังกล่าวประกอบกับทีมงานที่มีคุณภาพ

นอกจากนี้ นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการควบรวมกิจการกับธนาคารทหารไทย (TMB) ว่า คณะกรรมการธนาคารมีการศึกษาเรื่องนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ธนาคารธนชาตดำเนินนโยบายเชิงรุกมาโดยตลอด การเข้ามาบริหารงานจากนี้ จะเป็นการสานต่อนโยบายเพื่อมุ่งไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ บนพื้นฐานของการ ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยให้ความสำคัญกับความต้องการและผลประโยชน์ของลูกค้าสูงสุด และจะใช้หลักการทำงานแบบ Fast & Focused ในทุกองคาพยพเพื่อเน้นการตั้งเป้าหมายที่คมชัด วัดผลได้ สื่อสารให้ทุกคนในทีมรับรู้ และมีแรงผลักดันที่จะเติบโตไปสู่เป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อรักษาความเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศ

ธนาคารธนชาตมีทีมงานที่มุ่งมั่น เชี่ยวชาญและดำเนินกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตในธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ส่งผลให้ฐานะทางการเงินเติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เงินกองทุนอยู่ในระดับสูง มีสินทรัพย์รวมกันกว่า 1 ล้านล้านบาท

จากรากฐานความสำเร็จที่มี การบริหารงานในปี 2562 ธนชาตกำหนดกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจไว้อย่างชัดเจน 4 ประการ ได้แก่ การปรับผังผู้บริหารและตั้งหน่วยงานใหม่ ให้สอดรับกับแผนธุรกิจและ Customer Journey เพื่อให้แต่ละหน่วยงาน Focus กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น เช่น ตั้งหน่วยงาน Enterprise Digital Banking เพื่อศึกษาพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปและวางกลยุทธ์ด้านดิจิทัลให้เหมาะสม และจะมีการนำโมเดลการบริหารธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมาเป็นต้นแบบบริหารธุรกิจ

ด้านอื่นๆ อีกทั้งแต่ละธุรกิจจะมีทีมบริหารที่ดูแลงานขายและงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กลยุทธ์ข้อต่อมา คือ การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล (Data Driven Organization) ซึ่งจะเป็นการนำข้อมูลมาขับเคลื่อนธุรกิจทุกทิศทางและเกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม กลยุทธ์ข้อที่ 3 การลดกระบวนการทำงานต่างๆ (Agility) เปลี่ยนไปสู่ระบบอัตโนมัติเพื่อให้บริการได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น โดยที่ผ่านมาธนชาตได้พัฒนาระบบ Automotive Lending Digital Experience (ALDX) ให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็วขึ้นซึ่งประสบความสำเร็จ ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี และกลยุทธ์ประการที่ 4 การเพิ่มความรู้ทักษะพนักงาน ให้มีความรู้ลึก และรอบด้านในการให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่ลูกค้า (Advisor) อย่างตรงจุดและสม่ำเสมอ

สำหรับทัพผู้บริหารซึ่งมากด้วยประสบการณ์ และมีความเข้าใจลูกค้าและตลาดการเงินธนาคารอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะเข้ามาบริหารธุรกิจหลักที่เป็นกลไกขับเคลื่อนให้ธนชาตรักษาความเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศ ประกอบด้วย

นายวิลเลียม ซาอิด รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งมีประสบการณ์บริหารงานธุรกิจด้านโครงสร้างต้นทุน รวมถึงการบริหารความเสี่ยงของสโกเทียแบงก์มาแล้วในหลายประเทศ เช่น แคนาดา สหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน รับผิดชอบบริหารด้านลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ และ การพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม

ส่วนธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ บริหารโดย นายป้อมเพชร รสานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีประสบการณ์คลุกคลีในวงการรถยนต์และมีความเข้าใจธุรกิจนี้เป็นอย่างดี รวมถึงร่วมงานกับธนชาตมานานกว่า 30 ปี เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้ธนาคารเป็นที่หนึ่งของสินเชื่อรถยนต์

และอีกหน่วยงานที่สำคัญคือ ธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ จะยังคงบริหารงานอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม