TKN ติดปีกบิน รายได้ทั่วโลกโตวิ่งเข้าเป้า 1 หมื่นล้านปี 67

บริษัทเถ้าแก่น้อย คาดผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตขึ้น หลังจากบุกตลาดสหรัฐ ตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ในเซี่ยงไฮ้ตั้งหลักสร้างออเดอร์ ในประเทศขายดีหลังนักท่องเที่ยวจีนกลับมา บริษัทใช้กลยุทธ์ออกสินค้าใหม่ ขยายร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์อีก 5 แห่งเป็น 25 แห่ง “อิทธิพัทธ์”ตั้งเป้าหมายรายได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทหรือเพิ่มเท่าตัวจากปัจจุบัน ยืนยันสาหร่ายเถ้าแก่น้อยได้มาตรฐาน


นายคู่สูรย์ รัตนพร ผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน บริษัทเถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN)เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ TKN ในปี 2562 จะดีขึ้น คาดว่าจะเติบโตได้ 13-15% โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้้นเรื่อยๆ รวมถึงบริษัทได้ออกไปทำการตลาดในสหรัฐอเมริกา เปิดตัวแบรนด์ ‘Nora’อย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา มีเป้าหมายในการส่งสินค้าเข้าไปขายในห้างใหญ่ชื่อดังของสหรัฐ ปัจจุบัน บริษัทมีการส่งออกไปมากกว่า 50 ประเทศ ทั่วโลก

ส่วนตลาดในประเทศไทย ยอดขายก็ดีขึ้น คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในเดือนพ.ย.และธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่เหมือนในเดือนต.ค.ที่ได้รับผลกระทบมาก นอกจากนี้บริษัทยังมีการออกสินค้าใหม่ และการขยายร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์ตามจุดท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้มีทั้งสิ้น 20 สาขา จะเปิดเพิ่มขึ้นอีก 5 สาขาภายในปีนี้

” ยอดขายของเราดีขึ้นมากในหลายประเทศ เช่น ยุโรปยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก ที่เซี่ยงไฮ้ เราเพิ่งเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ตอนนี้ออเดอร์กลับมาแล้ว ส่วนตัวแทนจำหน่ายที่กว่างโจว ก็ยังขายดีเหมือนเดิม และบริษัทเถ้าแก่น้อยได้เข้าไปทำการตลาดและสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เราโฟกัสตลาดในประเทศจีน “นายคู่สูรย์กล่าว

ผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน สินค้าของบริษัทเป็นที่ต้องการมากขึ้น เนื่องจากสาหร่ายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มีคุณประโยชน์มาก มีทั้งโปรตีนและวิตามิน เป็นสินค้าทางเลือก บริษัทนำเสนอสาหร่ายอบแห้ง สำหรับคนที่หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำมัน และยังมีชนิดโซเดียมต่ำด้วย

ปัจจุบันโครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจากประเทศไทย 40 % ประเทศอื่นๆ 20% และเมืองจีน 40 % ที่มาจากเซี่ยงไฮ้และกว่างโจว อย่างละครึ่ง

สำหรับการเติบโตในระยะยาว นายคู่สูรย์ กล่าวว่า นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีเป้าหมายผลักดันเป้าหมายรายได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทในปี 2567 จากปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยกระจายการส่งออกสินค้าไปขายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เพื่อให้”เถ้าแก่น้อย” เป็นแบรนด์ระดับโกลบอล

ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้ามาลงทุนใน TKN มากขึ้น โดยบริษัทมีแผนในการออกไปนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์) อย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง ทั้งในประเทศเอเชีย ยุโรปและสหรัฐอเมริกา

ส่วนกรณีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแถลงผลตรวจสอบวิเคราะห์การปนเปื้อนของตะกั่วในกลุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์สาหร่ายอบกรอบ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา นายคู่สูรย์ ยืนยันว่า สาหร่ายของเถ้าแก่น้อยได้ค่ามาตรฐาน และยังได้มาตรฐานสูงกว่า เพื่อสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้ และโรงงานที่โรจนะที่เพิ่งเปิดดำเนินการใหม่ ก็ได้รับการรับรองคุณภาพโรงงาน

ทางด้านราคาหุ้น TKN อยู่ที่ 7.10 บาท ต่ำกว่าที่บล.ฟินันเซีย ไซรัสให้มูลค่าเหมาะสมที่ 14 บาท และบล.เอเชียเวลท์ให้ราคาเป้าหมาย 16.80 บาท โดยเอเเชียเวลท์แนะนำซื้อ คาดในปีนี้ กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.60 บาท เติบโต 25% และปีหน้า มีกำไรต่อหุ้น 0.72 บาทเพิ่มขึ้น 20% ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่พี/อี 11.8 เท่า

ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 434 ล้านบาท ลดลง 32 ล้านบาทหรือประมาณ 6.86% จากกำไรสุทธิ 466 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน