โกลด์ชอร์ส บริษัทร่วมทุน BKD ได้ฤกษ์เปิดโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาเพื่อ พังงา-ภูเก็ต ส่งเสริมคุณภาพชีวิต-การท่องเที่ยว คาดปีนี้ผลิต 24,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากกำลังการผลิตสูงสุด 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เล็งหาแหล่งผลิตน้ำประปาเพิ่ม ด้าน “นุชนารถ” ชี้ธุรกิจน้ำประปาหนุน BKD โตยั่งยืน ตั้งเป้าคืนทุนภายใน 7 ปี
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2562 กลุ่มบริษัทโกลด์ชอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัท บางกอกเดค-คอน หรือ BKD มีพิธีเปิดโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาเพื่อจังหวัดภูเก็ต-พังงาอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับสัมปทานประกอบกิจการประปา จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ตำบลไม้ขาว และตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต รวมระยะเวลา 30 ปี โดยมีแหล่งน้ำดิบมาจากขุมเหมืองเก่า เนื้อที่ประมาณ 340 ไร่ ตั้งอยู่ที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
นายสุวิชา พานิชผล กรรมการบริษัท โกลด์ชอร์ส จำกัดหรือ GS เปิดเผยว่า โครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาดังกล่าว มีกำลังการผลิตสูงสุด 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน แบ่งเป็น 4 เฟส โดยเฟสแรกมีขนาดกำลังการผลิตเท่ากับ 24,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมจะผลิตและจำหน่ายได้ครบทุกเฟส ภายในปี 2564 กลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว อุตสาหกรรมและรัฐวิสหกิจ ขณะที่กลุ่มลูกค้ารอง คือ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและอื่นๆ
นายสุวิชา กล่าวต่อว่า บริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูเก็ต จึงจัดหาที่ดินเพื่อดำเนินการพัฒนาเป็นแหล่งเก็บน้ำที่มีศักยภาพ เพื่อเก็บกักน้ำดิบเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการผลิตน้ำประปาส่งให้กับชุมชนที่อยู่อาศัยและพื้นที่ธุรกิจในจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต รองรับการขยายตัวของเมืองในระยะยาวและยังช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 10 ล้านคนต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนในโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากมองเห็นโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีและทำให้บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน
ด้านนางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบางกอกเดค-คอน (BKD) กล่าวว่า บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 40% ในบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด โดใช้งบลงทุนในครั้งนี้ราว 600 ล้านบาท ซึ่งตามแผนในปีนี้จะสามารถจำหน่ายน้ำประปาในเชิงพาณิชย์ได้ประมาณ 24,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากกำลังการผลิตสูงสุด 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
“ ในปีแรกของโครงการ BKD คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจน้ำประปาประมาณ 40 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น หากเดินกำลังการผลิตสูงสุดที่ 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน บริษัทจะมีรายได้ปีละ 130 ล้านบาท หากทำได้ตามแผนธุรกิจบริษัทคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 7 ปี”นางนุชนารถ กล่าว
ส่วนวัตถุประสงค์ของการเข้าลงทุนในธุรกิจน้ำประปา นางนุชนารถ กล่าวว่า บริษัทมองว่าธุรกิจสาธารณูปโภค เป็นธุรกิจที่เติบโตแบบยั่งยืน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งพื้นที่จำหน่ายน้ำประปาภายใต้สัญญาอยู่ในพื้นที่บางส่วนของจ.ภูเก็ต และจ.พังงา มีความต้องการใช้น้ำสูง เป็นแหล่งพักอาศัย แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งอุตสาหกรรม ปัจจุบันอยู่ในภาวะที่ขาดแคลนน้ำประปา
“บริษัทมองว่าธุรกิจสาธารณูปโภค เป็นธุรกิจที่เติบโตแบบยั่งยืน และก็มีความเชื่อว่าน้ำมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนมากกว่าไฟฟ้าเสียอีก”นางนุชนารถกล่าว
สำหรับบริษัทบางกอกเดค-คอน เป็นผู้รับเหมาตกแต่งภายในครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศ กลุ่มลูกค้ามีความหลากหลาย ทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ รวมทั้งผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปตามคำสั่งซื้อลูกค้า นอกจากมีงานในประเทศแล้ว BKD ยังได้เข้าไปรับงานตกแต่งภายใน โครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศกัมพูชาและเมียนมา