ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 3% กังวลปริมาณผลิตสหรัฐฯ -ศก.ชะลอ

“ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงกว่า 3% ปรับตัวลงหนักสุดในรอบ 1 เดือน หลังนักลงทุนกังวลปริมาณผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

บริษัท ไทยออยล์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลงหนักสุดในรอบ 1 เดือน หลังตลาดกังวลต่อปริมาณอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุด Baker Hughesได้รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยปรับเพิ่มขึ้น 10 แท่น มาแตะระดับ 862 แท่น

รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอน หลังการปิดบริการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพิ่งสิ้นสุดไป แต่หลายฝ่ายคาดว่า อาจมีการปิดบริการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ครั้งใหม่ หากการเจรจางบประมาณกรใช้จ่ายของสหรัฐฯ ระหว่างรัฐสภาและทำเนียบขาวไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยตรง

ด้านเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณการเติบโตที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ล่าสุดกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือน ธ.ค. 61ได้ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง โดยปรับตัวลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ลดลงจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่ม 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือน ม.ค. 61 รวมไปถึงมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอล่าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะทำให้การส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาปรับตัวลดลง

สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ บริษัทฯ ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวใยนกรอบ 59-64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันที่ 28 ม.ค.62 อยู่ที่ 51.99 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 1.70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ -3.27% ส่วนเบรนท์ปิด 59.93 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 1.71 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ -2.8%