ADVANC ตั้งงบลงทุนปีนี้ 2-2.5 หมื่นล้าน คาดรายได้โตเลขหลักเดียว

ADVANC คาดปี 62 รายได้โตไม่ถึง 10% EBIDA ใกล้เคียงปีนี้ ลุยลงทุนโครงข่ายตั้งงบ 2-2.5 หมื่นล้านบาท นโยบายปันผล 70% ของกำไรสุทธิ ด้านผลงานปี 61 กำไรสุทธิ 2.96 หมื่นล้านบาท ลดลง 1.3% เหตุค่าเสื่อมราคาโครงข่ายและค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาต บอร์ดอนุมัติปันผลระหว่างกาลอัตรา 3.30 บาท/หุ้น XD วันที่ 20 ก.พ.นี้

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) คาดการณ์รายได้จากการให้บริการหลักจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับกลาง (ไม่รวมผลจาก TFRS 15) จากการเติบโตของทุกธุรกิจและคาดว่าจะมีอัตรา EBITDA ใกล้เคียงกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 43.4%

พร้อมวางแผนใช้งบลงทุนประมาณ 20,000-25,000 ล้านบาท สำหรับเสริมความจุของ 4G เป็นหลัก โดยคำนึงถึงรูปแบบของการใช้งานโครงข่าย 5G ในอนาคตและเน้นรักษาสมดึลระหว่างการลงทุนและการสร้างผลตอบแทน ทั้งนี้ งบการลงทุนดังกล่าวไม่รวมงบสำหรับการขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 4,000-5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเป็นผู้นำตลาด ความสามารถในการแข่งขันและโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงพร้อมรับต่อสภาวะการณ์ต่างๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลง โดยบริษัทฯ ยังคงการจ่ายเงิยปันผลปีละสองครั้งจากผลการดำเนินงานบริษัทและกำไรสะสมบนงบการเงินเฉพาะกิจการ

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 29,682.18 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.98 บาท ลดลงเล็กน้อย 1.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 30,077.31 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 10.12 บาท

สาเหตุที่กำไรลดลงเป็นผลจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 33,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากการขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคื่อนที่และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมถึงค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ที่ได้รับในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายโครงข่ายมีจำนวน 26,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากการเปลี่ยนวิธีการบันทึกตามสัญญาการเป็นพันธมิตรกับทีโอที หากไม่รวมผลกระทบทางบัญชีดังกล่าวค่าใช้จ่ายโครงข่ายจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6%

ในขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 169,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% จากงวดปีก่อน จากการเติบโตของรายได้การให้บริการ การรวมรายได้ของ CSL จากการควบรวมกิจการและรายได้ค่าเช่าเครื่องและอุปกรณ์จาการเป็นพันธมิตรกับทีโอที

สำหรับรายได้การให้บริการหลักมีจำนวน 133,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% จากงวดปีก่อน ตามกรอบที่คาดการณ์ไว้จากการใช้งาน 4G ที่สูงขึ้นและจำนวนลูกค้าธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มขึ้น ส่วน EBITDA อยู่ที่ 73,792 ล้านบาท เติบโต 4.7% จากงวดปีก่อน หรือคิดเป็นอัตรากำไร EBITDA (ไม่รวมรายได้ค่าเช่าเครื่องและอุปกรณ์) เท่ากับ 45.2% เพิ่มขึ้นจาก 44.7% ในปีก่อน เป็นผลจากการให้บริการที่เติบโตและการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง