“เอเซียพลัส” คาดสัปดาห์นี้หุ้นพัก คงพอร์ต 35% ‘ PTT-MAJOR’ เด่น

บล.เอเซียพลัส คาดสัปดาห์นี้ ดัชนีแกว่งในกรอบ 1665-1635 รอกำไรบจ.-การจ่ายเงินปันผลชี้นำตลาด คาดเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าต่อ ส่วนหุ้นต่างประเทศใกล้เส้นตายการเจรจาการค้า ตลาดหุ้นผันผวนได้ง่าย

บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส คาดแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ (11-15ก.พ.2562) ดัชนีหุ้นน่าจะมีการปรับฐานในระยะสั้น แต่ Downside จะจำกัด จึงยังคงรักษาระดับพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 35% ตามเดิม

“ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวแคบๆ โดยมี 1,665 จุด เป็นกรอบบน และมี 1,635 จุด เป็นกรอบล่าง หลังจากเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และนับตั้งแต่ดัชนีหุ้นขึ้นมา 2.2% ตั้แต่วันที่ 24 ม.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ตลาดรับรู้กำหนดการเลือกตั้งส.ส. ที่ชัดเจน มีแรงซื้อของต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศ 7,920 ล้านบาท และ 2.01 หมื่นล้านบาทตามลำดับ “บล.เอเซียพลัสระบุ

ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ภาคธุรกิจแท้จริง หรือ Real Sector เริ่มประกาศผลประกอบการ พร้อมเงินปันผล น่าจะมีน้ำหนักเพียงให้ดัชนีหุ้นทรงตัวที่ระดับสูงได้ ส่วนเรื่องเงินทุนไหลเข้าน่าจะยังไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้อยู่ ความสนใจล่าสุดอยู่ที่กรณี MSCI อาจนำ NVDR เข้ามารวมในการคำนวณดัชนีส่งผลให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น

สำหรับหุ้นที่แนะนำตัวเลือกแรกได้แก่ PTT มูลค่าเหมาะสม 56 บาท เพราะมีมาร์เก็ตแคปสูง น่าจะเป็นเป้าหมายหลักของเงินทุนไหลเข้า และยังสามารถรักษาฐานกำไรไว้ที่ระดับสูงได้ รวมถึงอัตราผลตอบแทนปันผลที่สูงกว่า 4% ต่อปี และหุ้น MAJOR ที่มีความโดดเด่นเรื่องปันผล คาดสูงกว่า 5% ให้มูลค่าเหมาะสม 29 บาทคาดกำไรไตรมาส 4 เติบโต 1.7 เท่าจากปีก่อน ขณะที่ปี 2562 คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติโต 24%

ทางด้านตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์ดี ทำได้ที่ 1.09% และผลักดันให้อัตราผลตอบแทนสะสมจากต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3.86% ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตราสารการลงทุนทุกประเภทในพอร์ต ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า Benchmark ในส่วนหุ้นไทยให้ผลตอบแทน 1.58% นำโดย BJC, PTTEP และ MAJOR

ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศเมื่อเข้าใกล้เส้นตายของการเจรจาการค้า สหรัฐฯ-จีน น่าจะมีผลทำให้ตลาดหุ้นผันผวนได้ง่าย แต่การที่ได้ทำการลดพอร์ตการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาจนอยู่ที่ 15% ของพอร์ตการลงทุน ก็น่าจะเป็นระดับที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว