ASIAN ปักเรือธงอาหารสัตว์เลี้ยง มาร์จิ้นโต จีบร่วมทุนจีนเกิน 51%

HoonSmart.com >>”ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด”คาดใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท ร่วมทุนบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงในจีน ตลาดมีโอกาสเติบโตสูง หนุน 5 ปี มาร์จิ้นโตเฉลี่ย 10-12% ต่อปี บริษัทออกแบรนด์พรีเมี่ยม”มองชู” ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 120 ล้านบาท ขายในไทย-จีน คาด 3 ปีโตก้าวกระโดด 800 ล้านบาท ส่วนผลงานปี 61 ผู้บริหารยอมรับยอดขายไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 1 หมื่นล้านบาท เจอเงินบาทแข็งค่า

นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาที่จะเข้าไปร่วมทุนกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศจีน คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในปีนี้ โดยบริษัทต้องการที่จะถือหุ้นมากกว่า 51% เพื่อมีอำนาจในการบริหารจัดการได้ หากดีลสำเร็จ ทำให้รายได้จากจีนมีสัดส่วนราว 15% ของรายได้รวมได้ในอนาคต จากขณะนี้มีจำนวนไม่มาก

ปัจจุบันบริษัทมียอดส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ 70% และขายในประเทศ 30% ตลาดที่สำคัญได้แก่สหรัฐ มีสัดส่วนส่งออก 35% ยุโรป 25% ญี่ปุ่น 12% เป็นต้น ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินที่ผันผวน ระยะสั้นมีการทำเฮจจิ้ง เพื่อลดผลกระทบ ส่วนในระยะยาวมีการทำสัญญาปรับราคาขายทุก 6 เดือน อย่างไรก็ตามยอดขายในปี 2561 ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักมีการแข่งขันที่รุนแรง

นายเฮ็นริคคัส แวน เวสเทนดร็อป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน ASIAN กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะรุกธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เพราะมีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ที่ดี และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยออกแบรนด์ใหม่ มองชู (monchou) ซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม คาดว่าสัดส่วนรายได้จะปรับขึ้นมามากกว่า 40% เป็นรายได้หลักในปีนี้ จากปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 35% ซึ่งเป็นรายได้จากการรับจ้างผลิต (OEM)ให้กับแบรนด์ในต่างประเทศกว่า 40 แบรนด์

สำหรับแบรนด์ มองชู นับเป็นแบรนด์ตัวที่ 2 ของ ASIAN ก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา ออกแบรนด์ MARIA ธุรกิจอาหารสุนัขและแมวเช่นกัน โดย ASIAN ถือหุ้น ในสัดส่วน 40% และ อินเตอร์ ฟาร์มา ถือหุ้น 60% การออกมาแบรนด์ใหม่ ไม่ส่งผลกระทบต่อแบรนด์ MARIA เนื่องจากเป็นคนละตลาด

นายเฮ็นริคคัส กล่าวว่า บริษัทได้วางแผน 5 ปีนับตั้งแต่ปีนี้ จะมีอัตรากำไรขั้นต้นในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 10-12% ขณะเดียวได้ปรับกลยุทธ์ มุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น นำผลิตภัณฑ์แปรรูป เพื่อผลักดันผลประกอบการออกมาดี

สำหรับงบลงทุนในปีนี้ มีการลงทุนในคลังสินค้าของบริษัทย่อยคือ เอเชี่ยนอะไลอินซ์ อินเตอร์เนชันแนล ประมาณ 300 ล้านบาท และปรับปรุงเครื่องจักร ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และจัดตั้งบริษัทย่อย ส่งสินค้าไปขยายตลาดที่ประเทศจีน

นายจิรชาญ คัมภิรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ASIAN กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายสินค้ามองซู 120 ล้านบาท แบ่งเป็นในไทย 50 ล้านบาท และในจีน 70 ล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทและ 600 ล้านบาทตามลำดับ

จีนเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพเติบโตค่อนข้างสูง มีผู้รักสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น โดยเริ่มส่งไปทดสอบตลาดที่กวางโจวเป็นแห่งแรก เมื่อเดือนต.ค. 2561ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี ตามแผนจะมีการขยายไปยังเมืองใหญ่ๆ ของจีน บริษัทตั้งงบในการสร้างแบรนด์ มองชู ประมาณ 50 ล้านบาท โดยเจาะกลุ่มร้านค้าประเภท Pet Shop โรงพยาบาลสัตว์ และช่องทางโมเดิร์นเทรดกลุ่มพรีเมียมเป็นหลัก วางเป้าว่าแบรนด์ มองชูจะติด 5 อันดับแรกของไทย และอาเซียนภายใน 3 ปีข้างหน้า และติด 10 อันดับแรกของโลก ภายใน 5 ปี สำหรับภาพรวมตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยมีมูลค่ารวม 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอาหารสุนัข 76% แมว 19% โดยตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมี่ยมมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท ในแต่ละปีมีการเติบโต 10-25% จึงเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ