LH BANK ลั่นกำไรดีตามศก. สินเชื่อโต 6-8% คุม NPL ไม่เกิน 2%

HoonSmart>>ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดกลยุทธ์ในปี 2562 ตั้งเป้าสินเชื่อโตเท่าตัว จากปีก่อนทำได้ 3.7% เพิ่มเป็น 6-8% เน้นบริษัทขนาดกลาง ร่วมกับ CTBC Bank รุกปล่อยกู้การค้า พร้อมคุม NPL ไม่ให้เกิน 2% บลจ.แลนด์ฯหวังกองทุนโต 10-12% ขยายตลาดใหม่ ดึงคนรุ่นใหม่ลงทุน ขายกองทุนพ่วงประกัน บล.แลนด์ฯเปิดให้บริการส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ

นางศศิธร พงศธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) โดยมี CTBC Bank ธนาคารเอกชนอันดับ 1 ของไต้หวันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แถลงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ในปี 2562 ว่า ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH Bank)จะร่วมกับ CTBC ในการปล่อยสินเชื่อเพื่อการค้า(Trade Finance) และใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาระบบการให้บริการ ทั้งแพลทฟอร์ตดิจิทัล และ Digital Banking โดยตั้งเป้าขยายสินเชื่อ 6-8% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 3.7% ยังคงเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวังควบคู่กับการรักษาคุณภาพ ปรับพอร์ตให้มีความเหมาะสม ลดการกระจุกตัว จากปัจจุบันเป็นสินเชื่อเป็นรายใหญ่ 76% เอสเอ็มอี 11% และรายย่อย 13% คาดในช่วง 2-3 ปีให้มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ต

ในส่วนสินเชื่อธุรกิจ นางศศิธร จะเน้นการปล่อยให้กับบริษัทขนาดกลางมากขึ้น คือบริษัทที่มีรายได้ปีละ 500 ล้านบาท ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออก เพื่อกระจายความเสี่ยง จากที่ผ่านมาปล่อยสินเชื่อขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก

สำหรับสินเชื่อรายย่อย ได้ชะลอการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ต้นปี 2561 เพราะภาคอสังหาริมทรัพย์มี มากกว่าความต้องการซื้อ(โอเวอร์ซัพพลาย) และยังมีการแข่งขันกันสูง ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาตรการควบคุมในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สินเชื่อ SME จะได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ IFRS จึงต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และชะลอการปล่อยสินเชื่อลง

นางศศิธรกล่าวว่า ธนาคารตั้งปล่อยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ไม่ให้เกิน 2% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 1.93% และจะรักษา Coverage ratio ไม่ให้ต่ำกว่า 110%

“กำไรจะยังมีการเติบโต ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัว จากหลายปัจจัยโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภายในประเทศที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น”นางศศิธรกล่าว

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายกองทุนภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ให้เติบโตอีก 10-20% จากปีก่อนอยู่ที่ 66,192 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และ REIT ประมาณ 56,284 ล้านบาท, กองทุนส่วนบุคคล ประมาณ 7,000 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประมาณ 2,908 ล้านบาท

“กลยุทธ์ในปีนี้จะให้ความสนใจในตลาดที่ยังไม่ค่อยมีใครเข้าถึง โดยร่วมกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และพันธมิตร สร้างทางเลือกการลงทุนส่วนบุคคล และดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ นอกจากนี้จะมีกองทุนที่เหมาะสำหรับภาวะตลาดที่ชะลอตัว เช่น กองทุนพ่วงประกัน รวมถึงการจัดพอร์ตการลงทุน เพื่อดึงดูดเงินทุนใหม่ๆ และบริษทมีแผนที่จะร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ นำเสนอกองทุนระหว่างประเทศให้แก่ลูกค้า”นายมนรัฐกล่าว

นายกานต์ อรรถธรรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจและการตลาด บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า แผนงานในปี 2562 ยังคงเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน เปิดให้บริการ Auto Trade ส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ จะช่วยให้ลูกค้าส่งคำสั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น