“ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล” เปิดกองทุน GINNO ลงทุนหุ้น Megatrend ทั่วโลก

HoonSmart.com >> บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดขายกองทุน CIMB-PRINCIPAL GINNO ลงทุนหุ้นบริษัทชั้นนำทั่วโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น Megatrend ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล ออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ เทคโนโลยีการดูแลรักษาสุขภาพและธุรกิจที่จับลูกค้ากลุ่ม Millennials

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเปิดขายกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล อินโนเวชั่น (CIMB-PRINCIPAL GINNO) ซึ่งมีนโยบายลงทุนใน 4 ธีมที่เป็น Megatrend ของโลก ได้แก่ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล (Digitalization) ออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ (Automation & Robotics) เทคโนโลยีการดูแลรักษาสุขภาพ (Healthcare Technology) และธุรกิจที่จับลูกค้ากลุ่ม Millennials

1. Digitalization หรือ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี การนำเทคโนโลยียุคใหม่อย่าง Internet of Things (IOT) หรือการเชื่อมโยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ด้วยอินเทอร์เน็ต และระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลได้เองเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพและลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ ส่งผลให้ธุรกิจด้านอี-คอมเมิร์ช FinTech เติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยียังมีโอกาสเติบโตได้อีก

2. ระบบ Automation และ Robotics การนำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์หรือหุ่นยนต์เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยคาดว่านับจากปี 2560 – 2564 อุตสาหกรรมหุ่นยนต์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอุตสาหกรรมที่ใช้หุ่นยนต์มากที่สุดคือ ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และส่วนใหญ่ถูกจำหน่ายให้แก่บริษัทในจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และเยอรมัน

3. Healthcare Technology เทคโนโลยีด้านการดูแลและรักษาสุขภาพ เนื่องจากประชากรทั่วโลกมีแนวโน้มใช้จ่ายเพื่อสุขภาพมากขึ้นและเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา คาดว่าเมื่อถึงปี 2040 (พ.ศ. 2583) ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อจีดีพีของประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และ

4. Millennials การให้ความสนใจกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคน Gen Y และ Gen Z ที่เกิดในช่วงปี 2523 – 2543 หรือมีอายุตั้งแต่ 19 – 39 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีตลอดเวลา โดยคาดว่าในปี 2568 ประชากรกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของโลกและคิดเป็น 75% ของประชากรวัยทำงาน

ทั้งนี้ ทีมจัดการลงทุนของ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จัดสรรการลงทุน 4 ธีมนี้ในสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา โดยลงทุนผ่าน ETF 5 กองทุน ที่บริหารจัดการโดย BlackRock Asset Management North Asia Limited, Principal Global Investors (Ireland) Limited, และ Global X Management Company, LLC ซึ่งจะลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต

จากการทดสอบ Model Portfolio จำลองของกองทุน CIMB-PRINCIPAL GINNO พบว่า การกระจายลงทุนในธีมทั้ง 4 ให้ผลตอบแทน 23.88% ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งเป็นผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI World Index มากถึง 9.25%

“กองทุน CIMB-PRINCIPAL GINNO เหมาะกับผู้ลงทุนในระยะกลางและระยะยาวที่ต้องการกระจายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุนรวม โดยเรามองว่าภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลง ถือว่าจังหวะที่จะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรมที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก” นายวิน กล่าว

ทั้งนี้ กองทุน CIMB-PRINCIPAL GINNOเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) จนถึงวันที่ 15 ก.พ. 2562 กำหนดวงเงินสั่งซื้อขั้นต่ำครั้งละ 5,000 บาท โดยกองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน