กลุ่มปตท.ทุ่มลงทุน 2.64 แสนล. ทยอยรับรายได้ 5 ปี

HoonSmart>> กลุ่ม ปตท.ทุ่มงบลงทุนใน EEC 264,226 ล้านบาท จำนวน 11 โครงการ ทยอยเสร็จปี 2563-2566 พร้อมวางกลยุทธ์ลงทุนเทคโนโลยี พลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า กลุ่ม PTT มีแผนที่จะเข้าลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงพิเศษภาคตะวันออก (EEC)รวมถึงโครงการพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง ขณะนี้มีการลงทุนทั้งหมด 11 โครงการ มีมูลค่ารวม 264,226 ล้านบาท จะทยอยก่อสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2563-2566 มีทั้งโครงการที่เริ่มก่อสร้างแล้ว และอยู่ระหว่างการศึกษา เช่นโครงการของบริษัท ไทยออยล์ (TOP) ในโครงการ Clean Fuel อยู่ระหว่างก่อสร้าง จะสร้างเสร็จในปี 2566 เป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่า 128,743 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้การลงทุนสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึงได้ผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาด

นายชาญศิลป์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ คณะกรรมการได้อนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน บนพื้นที่ EECi มูลค่า 2,500 ล้านบาทในจังหวัดระยอง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและงานวิจัยส่วนโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกนั้น บอร์ดมีการพิจารณา แต่ยังไม่ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมประมูล

ทั้งนี้ ปตท.ได้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ในสัดส่วน 30 และ 70 เข้าร่วมประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะ 3 มีการพัฒนาคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ด้วย โดยการที่ GULF เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในฐานะผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในอนาคต เนื่องจากอยู่ระหว่างพัฒนาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ขนาด 5,000 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบกับภาครัฐต้องการให้โครงการดังกล่าวเป็นการในรูปแบบระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)

ส่วนการลงทุนของ PTT ขยายโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการท่อส่งก๊าซเส้นที่ 5 เส้นทางระยอง-ไทรน้อย-โรงไฟฟ้าพระนครเหนือและใต้ คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2564 ทำให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และภายในปีนี้มีแผนที่จะนำเข้าก๊าซ LNG ประมาณ 5 ล้านตัน และในอีก 5 ปีข้างหน้าก็จะเพิ่มการนำเข้าเป็น 11 ล้านตันต่อปี นับตั้งแต่ปี 2544-2561 กลุ่ม ปตท. ได้ส่วรายได้ให้รัฐในรูปแบบเงินปันผลและภาษีเงินได้รวมประมาณ 8.8 แสนล้านบาท

แนวโน้มราคาน้ำมันในปีนี้ นายชาญศิลป์คาดว่า จะอยู่ในช่วง 65-70 เหรียญต่อบาร์เรล และประเมินในช่วง 5 ปีจะอยู่ที่ 60-80 เหรียญต่อบาร์เรล

นางอรดี โพธิสาธร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร PTT กล่าวว่า ในปีนี้บริษัท ปตท.และบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 100% จะใช้เงินลงทุน 70,501 ล้านบาท และตั้งงบลงทุน 5 ปี (2562-2566) รวม 167,114 ล้านบาท ประมาณ 44% เป็นการขยายโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบการลงทุนของ PTTLNG 35,680 ล้านบาท และธุรกิจท่อส่งก๊าซ 27,527 ล้านบาท รองลงมา 40% จะเป็นการลงทุนของบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% จะใช้เงินลงทุน 66,525 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมงบลงทุนอีก 187,616 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ได้แก่ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ธุรกิจเอไอ โรโบติก รวมถึงธุรกิจแบตเตอรี่เป็นต้น เพื่อต่อยอดธุรกิจ ในลักษณะร่วมทุน หรือซื้อกิจการ ส่วนผลตอบแทนคาดหวัง IRR ประมาณ 8-15%

นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน PTT กล่าวว่า บริษัทฯมีเงินสดในมืออยู่ราว 1.3-1.4 แสนล้านบาท ในปีนี้ ปตท.จะใช้เงินลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เช่น การจ่ายภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้ บริษัทปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) ราว 1.6 หมื่นล้านบาท, ชำระคืนเงินกู้ครบกำหนดราว 2.6 หมื่นล้านบาท, ลงทุนตามปกติ 3 หมื่นล้านบาท ,จ่ายปันผลราว 5 หมื่นล้านบาท และเตรียมสำรองไว้สำหรับการเพิ่มทุนใน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) หากจะเข้าซื้อกิจการ บริษัท โกลว์ พลังงาน (GLOW)