BTS : หุ้นหลักในพอร์ตลงทุน เข้าตาตปท.-โตพร้อมพันธมิตร

HoonSmart.com >> บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ดำเนินธุรกิจโฮลดิ้ง ลงทุนใน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจระบบขนส่งมวลชน 2. ธุรกิจสื่อโฆษณา 3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ 4. ธุรกิจบริการ ได้สร้างความประทับใจให้กับนักลงทุน เรื่องผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2561 ที่ออกมาดีเกินคาด โดยมีกำไรสุทธิ 1,188.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 888.53 ล้านบาท

แต่ไม่ได้การันตีว่ากำไรในไตรมาส 4 จะเติบโตมากอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า 4 ธุรกิจหลักยังคงขยายตัวดีก็ตาม แต่ตัวแปรคือ การรับรู้รายได้การก่อสร้างและจัดหารถไฟฟ้า (E&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง ซึ่งไตรมาสนี้คงไม่มากเท่ากับไตรมาสก่อน จำนวน 13,600 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกำไรของ BTS จะขยายตัวสูงในระยะยาว และยังคงให้ผลตอบแทนปันผลที่ดีด้วย ดังนั้นนักลงทุนควรจะหาจังหวะที่ราคาอ่อนตัวลง ในการเลือกเก็บ BTS ไว้เป็นหุ้นหลักสำหรับพอร์ตลงทุน

“สุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ให้สัมภาษณ์ www.HoonSmart.com ว่า กลุ่มบีทีเอสยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยใช้นโยบายการทำธุรกิจร่วมกับพันธมิตร WIN WIN เห็นได้จากการเซ็นสัญญากับสหพัฒนพิบูล ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้ารายใหญ่ของประเทศไทย มีฐานลูกค้า ฐานข้อมูลที่ใหญ่มาก รวมถึงการเปิด Lawson 108 สาขา BTS ทองหล่อ เป็นแห่งแรก และจะมีสาขาต่อไป

ส่วนธุรกิจบริการ Rabbit LINE Pay เริ่มให้บริการทางการเงิน ร่วมกับบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS ที่มีความเชี่ยวชาญในการปล่อยสินเชื่อ เก่งทางด้านตลาดต่างจังหวัด ส่วนเรามีฐานลูกค้าตลาดในกรุงเทพ และปริมณฑล ตอนนี้ปล่อยสินเชื่อได้แล้ว 1,600 ล้านบาท อย่างไรก็ตามความร่วมมือกับอิอนฯมีเงื่อนไขที่ป้องกันความเสี่ยง หากมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น หรือเอ็นพีแอลถึงระดับไหน เราสามารถขายหุ้นคืนในราคาพาร์ได้ ปัจจุบันความต้องการสินเชื่อยังคงขยายตัวดี

ธุรกิจสื่อ ภายใต้การนำของบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย(VGI)ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเข้าไปลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ แอด (MACO)มีการผสมผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกัน รวมถึงบิ๊กดาต้า ทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย และต่อยอดลงทุนโลจิสติกส์ ลงทุนในกิจการ Kerry Express Thailand สนับสนุนใน Ecosystem ของ E-commerce ซึ่งกำลังเติบโตในประเทศไทย

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ยู ซิตี้ (U) น่าจะเริ่มต้นไต่เพดานสูงขึ้น จากโครงการอสังหาริมทรัพย์มีกำไรขั้นต้นดีขึ้น โรงแรมในยุโรปก็มีกำไร การซื้อคอนโดมิเนียมที่ร่วมลงทุนกับบริษัทแสนสิริในราคาตลาด มีการบันทึกกำไรทางบัญชี

ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมาย รายได้ค่าโดยสารเติบโต 3% รายได้ก่อสร้างฯ ขยายตัว 20% ส่วนธุรกิจสื่อและอสังหาริมทรัพย์ดีกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ BTS รับรู้กำไรที่ดีขึ้น

สถานการณ์ปัจจุบันของ BTS ธุรกิจทั้ง 4 ประเภทมีความแข็งแกร่ง พร้อมออกไปนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนต่างประเทศได้รับรู้มากขึ้น

“สุรยุทธ”กล่าวว่า ปกติบริษัทมีการเดินทางไปพบนักลงทุนสถาบันในเอเชียทุกปี โดยเฉพาะฮ่องกงและสิงคโปร์ ไปโรดโชว์ทุกไตรมาส ในปีนี้ กลางเดือนมี.ค. จะไปร่วมงานประชุมประจำปีของ บริษัทเครดิตสวิส ที่ฮ่องกง ส่วนประเทศญี่ปุ่น ไปปีละ 1 ครั้ง ปีนี้จะเพิ่มเป็น 2 ครั้ง เพราะหุ้น BTS มีคุณสมบัติตรงที่นักลงทุนต่างประเทศต้องการ คือ 1. บริษัทบีทีเอสมีสตอรี่ 2.มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปใหญ่พอสมควร มากกว่า 1.2 แสนล้านบาท 3. สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นพอสมควร ส่วนเงินปันผล ยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิทุกปี

ที่ผ่านมา บริษัทฯให้อัตราผลตอบแทนปันผลสูงถึง 6-8% จูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนมาก แต่เมื่อผลตอบแทนลดลง ก็มีการขายหุ้นออกไปบางส่วน ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนรถไฟฟ้า นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองแตกต่างกัน บางส่วนเข้ามาลงทุนล่วงหน้าก่อน แต่ก็มีส่วนหนึ่งจะกลับมามองหุ้น BTS หรือจะเข้ามาซื้อ เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้ว ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนักในระหวา่งนี้ อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าอนาคตผลการดำเนินงานมีโอกาสเติบโตมากแน่นอน