“โกลเบล็ก” จับตาปัจจัยตปท. แนะหุ้นได้ดีเลือกตั้ง-คำนวณดัชนีฟุตซี่

HoonSmart.com>> บล.โกลเบล็ก จับตาปัจจัยความเคลื่อนไหวต่างประเทศ เฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย Brexit ของอังกฤษ เลื่อนเส้นตายวันออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการออกไปอีก 2 เดือน และตัวเลขเศรษฐกิจประเทศยักษ์ใหญ่ปลายสัปดาห์นี้ ให้กรอบดัชนี 1,640 – 1,680 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นในหุ้นที่เข้าคำนวณ FTSE Large – Mid Cap และหุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากต่างประเทศ อาทิ สหรัฐมีแนวโน้มเลื่อนเวลาในการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปจากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ 1 มี.ค.นี้ เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีความคืบหน้า และธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณว่ายังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้ปีนี้ FED อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1-2 ครั้งจากที่ปรับขึ้น 4 ครั้งในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยกดดันการลงทุนตลาดหุ้น คือ ปัญหาการ Brexit ของอังกฤษที่ยังไม่มีความแน่นอน โดยอาจล่าช้าออกไปอีก 2 เดือนจากเดิมที่มีกำหนดเส้นตายในการถอนตัวออกจาก EU ในวันที่ 29 มี.ค. ทั้งนี้ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศเลื่อนวันลงมติในรัฐสภาต่อข้อตกลง Brexit ออกไปเป็นวันที่ 12 มี.ค. เพียง 17 วันก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) กดดันให้รัฐสภาตัดสินใจเลือกระหว่างข้อตกลง Brexit ที่ใช้ไม่ได้ของนางเมย์ และการที่อังกฤษจะแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง รวมทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้รายได้จากการส่งออกในรูปเงินบาทลดลง รวมทั้งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกให้ลดลง กดดันการเติบโตของการส่งออกไม่เป็นไปตามเป้า เดือนม.ค. 62 มูลค่าส่งออกลดลง 5.7% ขณะที่ส่งออกในช่วงไตรมาสแรกมีแนวโน้มชะลอตัว แม้จำนวนนักท่องเที่ยวปรับดีขึ้นขานรับมาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (E-VOA)

ส่วนปัจจัยที่น่าจับตาเพิ่มเติม ได้แก่ การเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. ราคาบ้านเดือนธ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันที่ 26 ก.พ.นี้ และในวันที่ 27 ก.พ. ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมทั้งจีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ด้าน อียู จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.และสหรัฐ เปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนม.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

ส่วนในวันที่ 28 ก.พ. ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย จีน เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) และสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2561 ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.พ. และในวันที่ 1 มี.ค. ญี่ปุ่น เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ส่วนจีน เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.จากไฉชิน อียู เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ. อัตราว่างงานเดือนม.ค. และสหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ม.ค. รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค.ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ. ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนขาขึ้น คาดดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,640 – 1,680 จุด ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่เข้าคำนวณ FTSE Large Cap เช่น HMPRO, GULF, EA, MINT, MAKRO, BEM, DIF และ FTSE Mid Cap เช่น MTC, GPSC ซึ่งจะมีผลในวันที่ 15 มี.ค.นี้ และหุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง VGI, PLANB, MACO, CPALL, MAKRO, BJC และ TKS รวมทั้ง AOT , CENTEL และ ERW ได้อานิสงส์ขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว