“ทุนธนชาต” มั่นใจหลังธนาคารธนชาต ควบรวม TMB ยังถือหุ้นอย่างต่ำ 20% หนุนกำไรสุทธิเพิ่ม จ่ายปันผลได้มั่นคง ยันไม่ถอนหุ้น TCAP ออกจากตลาดหลักทรัพย์
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทุนธนชาต (TCAP) เปิดเผยว่า การควบรวมของธนาคารธนชาตเข้ากับธนาคารทหารไทย (TMB) ในครั้งนี้ บริษัท ทุนธนชาต ยังคงอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป แต่การถือหุ้นมากกว่าหรือเท่ากับ 20% ในธนาคารใหม่หลังการควบรวม จะทำให้กำไรสุทธิมากขึ้น รวมถึงความสามารถในการจ่ายเงินปันผลมั่นคงและเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะการถือหุ้นในธนาคารที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นและมูลค่าหุ้นทางบัญชีดีขึ้น
“มองผลลงทุนระยะยาว การรวมผลิตภัณฑ์และบริการจะดีกว่า เดิมทุนธนชาตเป็นแบงก์ใหญ่อันดับ 6 อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าอัตราผตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ทำได้มากกว่า 10% จะดีมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาทุนธนชาตมีสินเชื่อรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง แต่ต้นทุนเงินฝากยังสูงกว่าธนาคารทหารไทย ซึ่งรวมกันแล้วจะทำให้ทุนธนชาตยังคงเป็นโฮลดิ้งทางการเงินและให้ผลตอบแทนต่อนักลงทุนได้มากขึ้นในระยะยาว”นายศุภเดช กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ.2562 ทีเอ็มบี และ ธนาคารธนชาต แถลงข่าว “Synergy for Growth” การควบรวมกิจการหลังใช้เวลาเจรจามาต่อเนื่อง
ด้านราคาหุ้น TCAP ณ เวลา 10.35 น. อยู่ที่ 54.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.35% มูลค่าการซื้อขาย 230.73 ล้านบาท จากราคาเปิดที่ 54 บาท ต่ำสุด 53.75 บาทและสูงสุดที่ 54.74 บาท ส่วน TMB อยู่ที่ 2.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 2.63% มูลค่าซื้อขาย 849.44 ล้านบาท
อ่านประกอบ