BGRIM ชูรายได้ 3.65 หมื่นล้าน แจกเงินปันผลอีก 17 สตางค์/หุ้น

HoonSmart.com>>บี.กริม เพาเวอร์ โชว์รายได้เติบโตกว่า 16% เป็น 36,585 ล้านบาท กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 3,027 ล้านบาท จาก COD โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 3 โรง และโครงการหน่วยราชการ ส่งต่อรายได้เต็มปี 2562 พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามและพลังงานทดแทนอื่น หนุนกำลังการผลิตโต 34% จ่ายเงินปันผลอีก 0.17 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปี 0.32 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 834 ล้านบาท

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ( BGRIM) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2561 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 36,585 ล้านบาท เติบโต 16.2% จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) 3 แห่ง คือ ABPR3, ABPR4 และ ABPR5 กำลังการผลิตติดตั้งรวม 399 เมกะวัตต์ ( MW) และ COD โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ 7 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 30.8 MW ทั้งปีบริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้น 430 MW เติบโตถึง 26%

บริษัทฯมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 3,027 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 1,842 ล้านบาท เติบโตถึง 6.7 % จากปีก่อนหน้า จาก COD ของโรงไฟฟ้าใหม่ และต้นทุนทางการเงินลดลง จากการออกหุ้นกู้ ในเดือน พ.ค. เดือน ต.ค. และหุ้นกู้กรีนบอนด์ในเดือนธ.ค. 2561 ซึ่งหุ้นกู้กรีนบอนด์ถือเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองโดย Climate Bonds Initiative มีการจัดทำแนวทางปฎิบัติสากลสอดคล้องกับมาตราฐานเกณฑ์การออกพันธบัตรอาเซียนกรีนบอนด์ และได้รับรางวัล Most Innovative Bond Deal จากสมาคมตราสารหนี้ไทย เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา

ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทยังเดินหน้าธุรกิจตามแผน มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาอีก 17 โครงการรวมกำลังการผลิตติดตั้ง 1,050 MW เพิ่มกำลังการผลิตรวมเป็น 3,126 MW ณ ปี 2565 คาดว่าในปีนี้ COD จำนว น4 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 697 MW ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม DTE1&2 ซึ่งเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่อยู่ระหว่างพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนด้วยกำลังการผลิตติดตั้ง 420 MW และโครงการ Phu Yen TTP กำลังการผลิตติดตั้ง 257 MW โดยทั้งสองโครงการมีกำหนด COD ในเดือน มิ.ย. 2562 โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam Che กำลังการผลิตติดตั้ง 15 MW คาดว่าจะ COD ในครึ่งปีแรก และโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 5 MW คาด COD ปลายปี ซึ่งจะทำให้ปี 2562 เป็นปีที่มีกำลังการผลิตเติบโตก้าวกระโดดกว่า 34%

นอกจากนี้บริษัทเพิ่งประกาศความสำเร็จในการซื้อโรงไฟฟ้า โกลว์ เอสพีพี 1 จากบริษัท โกลว์ พลังงาน( GLOW) คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจาก กกพ. ภายในไตรมาส 1/ 2562 บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าโครงการในระยะยาว เนื่องจากพื้นที่มาบตาพุดเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด มีความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำในระดับสูงมาก และโรงไฟฟ้าแห่งนี้อยู่ในเงื่อนไขซึ่งได้รับความเห็นชอบให้ต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (เอสพีพี) จากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 หากรวมโครงการนี้แล้วกำลังการผลิตโดยรวมของบริษัทจะเพิ่มเป็น 3,250 MW ในปี 2565

ส่วนโอกาสการลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาข้อมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเกาหลี เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และลาว เพื่อบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งที่ 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565

คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 17 สตางค์ ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 14 มี.ค. 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พ.ค. 2562 ก่อนหน้านี้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.15 บาท รวมทั้งปี 2561 ให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 0.32 บาท/หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 834.20 ล้านบาท