ดาวโจนส์ปิดลบ 72 จุด เจรจาการค้าสหรัฐกับจีนไม่แน่นอน

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย 72 จุด เจรจาการค้าสหรัฐ-จีนยังมีความไม่แน่นอน ด้านหุ้นยุโรปร่วงยกแผง หลังเกิดเหตุปากีสถานยิงเครื่องบินอินเดียร่วง ส่วนราคาน้ำมัน WTI พุ่ง 2.6%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2562 ที่ 25,985.16 จุด ลดลง 72.82 จุด หรือ 0.13% หลังนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ จากสำนักผู้แทนการค้าส่งสัญญาณ ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดการายได้ของสภาผู้แทนราษฏร(House Ways and Means Committee) ว่า การเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการกับจีนยังมีความไม่แน่นอน โดยระบุว่าการที่จะตกลงใดๆจีนต้องดำเนินการมากกว่าการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และข้อตกลงนั้นจะไม่เจาะจงลงไปรวมทั้งต้องรวมถึงการบังคับใช้ด้วย นอกจากนี้การจะบังคับใช้ข้อตกลงยังเป็นกระบวนการอีกนานแม้จะตกลงกันได้ในเดือนมีนาคม

อย่างไรก็ตามนายไลท์ไฮเซอร์กล่าวกับดิวอลล์สตรีทเจอร์นัล ว่า สหรัฐอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อยกเลิกแผนเรียกเก็บภาษาสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการ

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคาร(เฟด)แถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการด้านธนาคารวุฒิสภาเป็นวันที่ 2 ว่า เฟดจะใช้ความอดทนในการดำเนินนโยบายการเงิน รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจยังสดใสแต่ก็มีความท้าทาย และจะยุติการปรับลดงบดุลในปีนี้

นอกจากนี้ประเด็นความตึงเครียดทางการเมืองโลกสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนหลังจากปากีสถานยิงเครื่องบินอินเดียร่วง 2 ลำและสั่งปิดน่านฟ้า รวมไปถึงจับตาการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ(NAR) เผยดัชนี การทำสัญญาขายบ้านเพื่อปิดการขาย(Pending Home Sales) เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 4.6% จากเดือนก่อน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,792.38 จุด ลดลง 1.52 จุด,-0.05%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,554.51 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด, +0.07%

ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดทำให้หุ้นเบสต์บาย ห้างค้าปลีกสินค้าอิเลคทรอนิคส์เพิ่มขึ้น 14.2% หุ้นโลวส์ ผู้จำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น 2.5%

หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 2.03% หุ้นแคทเธอพิลลาร์เพิ่มขึ้น 1.16%

หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 1.04% หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 0.12%

หุ้นยูไนเต็ดเฮลท์แคร์ลดลง 4.91%

ตลาดยุโรปปิดลบ จากความตึงเครียดของสถานการ์ณการเมืองโลกหลังปากีสถานยิงเครื่องบินอินเดียร่วง 2 ลำและสั่งปิดน่านฟ้า รวมทั้งยังเกาะติดการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ตลอดจนความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มลดลง 10% จากข่าวว่ารัฐบาลเนเธอรแลนด์จะเพิ่มการถือหุ้นในบริษัท ซึ่งจะมีผลให้กระบวนการตัดสินใจในบริษัทนานขึ้น

หุ้นเมโทรแบงก์ในอังกฤษลดลงมากกว่า 26% หลังประกาศแผนเพิ่มทุน 350 ล้านปอนด์

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,107.20 จุด ลดลง 43.92 จุด,-0.61%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 372.58 จุด ลดลง 1.06 จุด, -0.28%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,225.35 จุด ลดลง 13.36 จุด,-0.26%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,487.33 จุด ลดลง 53.46 จุด,-0.46%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์หรือ 2.6% ปิดที่ 56.94 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์หรือ 1.8% ปิดที่ 66.39ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์