บลจ.ยูโอบี ตั้งเป้า AUM ปีนี้โต 10-15% มองเป้าดัชนี 1,750 จุด เน้นหุ้นใหญ่มีคุณภาพ

HoonSmart.com>>บลจ.ยูโอบี มองการลงทุนปี 62 เชิงบวก เป้าหมายหุ้นไทย 1,750 จุด หนุน AUM ภายใต้บริหารเติบโต 10-15% มุ่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ตอบรับโลกดิจิตอล

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ. ยูโอบี มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในปี 2562 แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า โดยตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ของบริษัทในปีนี้เติบโตประมาณ 10-15% จากปี 2561 อยู่ที่ 209,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนรวมประมาณ 141,000 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพประมาณ 46,000 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคลประมาณ 23,000 ล้านบาท

วนา พูลผล

“ปี 2561 ธุรกิจกองกองทุนรวมไม่ค่อยดี ทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้ มีเงินไหลกลับตลาดพัฒนาแล้ว ทำให้ AUM ทั้งอุตสาหกรรมไม่โต ซึ่งปีนี้คาดว่าทั้งอุตสาหกรรมน่าจะดีกว่าปีก่อน เซนทิเม้นท์ดีตั้งแต่ต้นปี ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ผ่อนนโยบายลงและจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งเศรษฐกิจหลายภูมิภาคทั่วโลกยังไม่ดียังคงชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดหุ้น”นายวนา กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมายังคงแกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนหลายปัจจัยจากทั้งในประเทศและทั่วโลก โดยปัจจัยที่นักลงทุนยังต้องจับตามอง ได้แก่ การเลือกตั้ง สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ โอกาสในชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและโลก และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในทั้งประเทศไทยและสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะกระทบบรรยากาศการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ในทางกลับกันพื้นฐานเศรษฐกิจไทยและตัวเลขต่างๆของบริษัทเอกชนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะมูลค่าหุ้นของหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นหลักทั่วโลก รวมถึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่อาจกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่อีกครั้ง หากปัจจัยเสี่ยงต่างๆเริ่มมีความชัดเจนมากขี้นในปีนี้ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปีนี้อาจปรับตัวขึ้นได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมองเป้าหมายดัชนีปีนี้ไว้ที่ 1,750 จุด คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตอยู่ที่ 105 บาท/หุ้น หรือเติบโต 7-8%

“บลจ.ยูโอบี มองตลาดหุ้นไทยเป็น Neutral มีอัพไซด์ไม่มาก ดาวน์ไซด์ก็ไม่มาก อยู่กลางๆ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจะเน้นหุ้นคุณภาพ มีขนาดใหญ่และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม โดยยังคงลงทุนอย่างระมัดระวัง ซึ่งกลุ่มยูโอบี สิงคโปร์ก็มีมุมมองต่อตลาดหุ้นอาเซียน รวมถึงไทย เป็น Neutral มาตั้งแต่ปลายปีก่อนแล้ว”นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และสื่อสารองค์กร สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี กล่าว

อย่างไรก็ตามบลจ.ยูโอบี แนะนำให้กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนท่ามกลางภาวะตลาดผันผวน โดยยังคงนำเสนอทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับภาวะตลาดและสอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุน ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญ การสนับสนุนจากเครือข่ายในภูมิภาค รวมถึงการจับมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่หลากหลายสำหรับนักลงทุน

นายวนา กล่าวว่า ปีนี้บลจ.ยูโอบี มุ่งเน้นการพัฒนาแนวทางนวัตกรรมดิจิตอล เพื่อให้สอดคล้องกับโลกยุคดิจิตอลที่มีการเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาในกระบวนการบริหารการลงทุน เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลการลงทุนเชิงวิเคราะห์ได้อย่างเจาะลึกและแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือที่ช่วยในการบริหารการลงทุน นำไปสู่กระบวนการสร้างผลการดำเนินงานของกองทุนที่ดี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญปีนี้

ในด้านการบริการยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยชูบริการการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือ Premier Online ซึ่งนักลงทุนจะได้รับความสะดวกมากขึ้นจากขั้นตอนการสมัครใช้บริการและการใช้บริการซื้อขายหน่วยลงทุน อีกทั้งบลจ.ยูโอบี ยังเล็งเห็นความสำคัญของการจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพื่อตอบโจทย์การลงทุนระยะยาวของนักลงทุนแต่ละราย โดยได้นำเสนอบริการ “Premier Advice” ซึ่งเป็นบริการช่วยจัดพอร์ตการลงทุนออนไลน์ ผ่านขั้นตอนง่ายๆ เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้

นอกจากนี้บลจ.ยูโอบี จะมีการเปิดบริการช่องทางการรับชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนผ่านระบบ QR Code ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสร้างความสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้นในการชำระค่าซื้อหน่วยลงทุน โดยมีแผนการจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 2 ปีนี้

น.ส.รัชดา ตั้งหะรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บลจ.ยูโอบี กล่าวว่า จากภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนในปีนี้ คาดว่าความเสี่ยงในการลงทุนจะเพิ่มสูงขึ้น การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทจึงมีความสำคัญ โดยควรเน้นเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นที่มีคุณภาพสูง หรือเลือกลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อสามารถกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น และมีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในภาวะตลาดผันผวนได้ ทั้งนี้ แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกลยุทธ์ทางเลือก เช่น อสังหาริมทรัพย์ เพื่อโอกาสในการรับอัตราผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว

บลจ. ยูโอบี ได้คัดสรรกองทุน 5 กองทุนเพื่อครอบคลุมโอกาสการลงทุนที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ดังนี้ กองทุนเปิด ไทย ตราสารหนี้ (TFIF) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ (UGIS) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด เฟล็กซิเบิ้ล อินคัม ฟันด์ (UFIN) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ (UNI) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ (UCHINA)