บลจ.วี ในเครือ KTBST ประเดิมส่ง 2 กองทุนตราสารหนี้ขายมี.ค.นี้

HoonSmart.com>> บลจ.วี พร้อมลงตลาดกองทุนรวม ประเดิมส่ง 2 กองทุนตราสารหนี้ WE-MONEY และ WE-INCOME เน้นลงทุนตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ สร้างโอกาสผลตอบแทนส่วนเพิ่มในภาวะดอกเบี้ยเงินฝากในระดับต่ำ ชูทีมผู้บริหารคร่ำหวอดวงการตลาดเงิน ตลาดทุนกว่า 20 ปี สร้างความเชื่อมั่นลูกค้า

อิศรา พุฒตาลศรี

นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วี จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.วี ถือหุ้นใหญ่โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ได้เริ่มดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2562 โดยในช่วงแรกพร้อมให้บริการด้านกองทุนรวมให้กับนักลงทุน ผ่านช่องทางการขาย คือ ตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (Selling agent) ของ KTBST

น.ส.นิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ บลจ.วี กล่าวว่า บลจ.วี มุ่งเน้นการออกแบบกองทุนรวมที่สนองตอบความต้องการของนักลงทุนเป้าหมาย โดยในช่วงแรกจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 2 กองทุน ที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่จูงใจเมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากตลาดเงินในปัจจุบัน จึงคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่จากช่องทางการขายของ KTBST ที่มีฐานลูกค้าบุคคลธรรมดารายใหญ่ (High Net Worth) ซึ่งต้องการหาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากเงินฝากธนาคารในภาวะที่ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ จากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

บลจ.วี จะเปิดขายกองทุนเปิด วี มันนี่ มาร์เก็ต (WE-MONEY) กองทุนตลาดเงินเหมาะสำหรับการบริหารสภาพคล่องระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ลงทุน มีความเสี่ยงต่ำ ลงทุนในเงินฝาก ตราสารภาครัฐ ตราสารหนี้เอกชนระยะสั้นที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยกองทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 18-19 มี.ค.62

นิตยา เลิศแสงเพชร

หลังจากนั้นระหว่างวันที่ 21-22 มี.ค.62 เปิดขายกองทุนเปิด วี ฟิกซ์ อินคัม ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (WE-INCOME) มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) เป็นหลัก และกระจายการลงทุนบางส่วนลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non– Investment Grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ระยะสั้นที่มีฐานะทางการเงินและมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น โดยกองทุนมีสภาพคล่องสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.

นอกจากนี้เตรียมออกกองทุนใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องในปีนี้ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า เช่น กองทุนประเภทคอมเพล็กรีเทิร์น , กองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ และกองทุนต่างประเทศ

ทั้งนี้ บลจ.วี เกิดขึ้นโดยมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่สร้างผลการดำเนินงานของกองทุนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ พร้อมด้วยความหลากหลายด้านนวัตกรรมทางการเงิน และมุ่งที่จะออกแบบกองทุนรวมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันเพื่อความมั่งคั่งของลูกค้า ภายใต้แนวคิด “We design your wealth .. We grow together.”

“บลจ.วี ก่อตั้งโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดเงินและตลาดทุน และมีประสบการณ์ในธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน และธุรกิจหลักทรัพย์ มานานกว่า 20 ปี ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงเชื่อมั่นได้ว่า บลจ. วีมีความชำนาญทั้งในด้านการสรรหาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม”นายอิศรา กล่าว

นายอิศรา กล่าวว่า สำหรับมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 62 ซึ่งประเมินว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกยังสามารถเติบโตได้ในปีนี้ แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นที่ยังสามารถเติบโตได้ดีที่ระดับ 2.3-2.5% ในปีนี้ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1/62 อาจจะชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากผลกระทบจากเรื่องสงครามการค้า แต่คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในปลายไตรมาส 2/62 ดังนั้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาพรวมยังเป็นการเติบโตที่ดี นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นต่อไป

ขณะที่เศรษฐกิจไทยด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ยังแข็งแกร่ง ภาพรวมของเศรษฐกิจที่สามารถเติบโตได้ที่ระดับ 3.5 – 4% ในปีนี้ ดังนั้น บลจ.วี จึงมีแผนนำเสนอกองทุนใหม่ที่มีนโยบายลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดี