DOD โตเร็ว ร่วมทุนธุรกิจสุขภาพ-ช่องทางการขาย พักแผนพัฒนาแบรนด์เอง

HoonSmart.com>>ดีโอดีไบโอเทคปรับแผนใช้เงินไอพีโอ ชะลอแผนพัฒนา 2 แบรนด์สินค้าเอง เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยวิธีร่วมลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญการขายอาหารเสริมรายใหญ่ เพิ่มงบลงทุนในโรงสกัดวัตถุดิบและห้องปฏิบัติการวิจัย ใช้หนี้แทนในการลงทุนธุรกิจสุขภาพความงาม ทำธุรกิจครบวงจร

บริษัท ดีโอดีไบโอเทค (DOD)แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2562 มีมติอนุมัติเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น พิจารณาเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก(ไอพีโอ)โดยวิธีการเกลี่ยวงเงินระหว่างรายการและเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการใช้เงินในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในแนวโน้มของการใช้เงินไอพีโอ บริษัทได้ชะลอแผนการพัฒนาตราสินค้าใหม่ 2 ตราสินค้า ได้แก่ สินค้าเพื่อตอบสนองกลุ่มผู้สูงอายุที่มุ่งเน้นการมีสุขภาพดี และตราสินค้าสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรตรีผลา) เนื่องจากจากการสำรวจภาวะอุตสาหกรรม บริษัทพบว่าการลงทุนสร้างตราสินค้าอย่างเต็มรูปแบบยังมีความเสี่ยงสูง

อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีแนวทางการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย โดยการร่วมทุนกับบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น ธุรกิจขายตรงและธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทยังคงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทย เพื่อจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ ต่อไป โดยนำวงเงิน 200 ล้านบาทเปลี่ยนเป็นการลงทุนในโรงสกัดวัตถุดิบและห้องปฏิบัติการวิจัย เพิ่มขึ้นจากเดิม 100 ล้านบาท เป็น 260 ล้านบาทแบ่งเป็นโรงสกัด 200 ล้านบาทและห้องปฏิบัติการวิจัย 60 ล้านบาท พร้อมขยายเวลาการใช้เงินถึงปี 2564 จากเดิมถึงปี 2563 เนื่องจากบริษัทฯมีแผนพัฒนาโครงการในระดับที่ใหญ่ขึ้น

ส่วนที่เหลือ 40 ล้านบาท นำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน และนำเงินที่เหลือจากการชำระคืนเงินกู้สถาบันจำนวน 3.11 ล้านบาทเป็นเงินทุนหมุนเวียนด้วยหลังจากชำระคืนเงินกู้ยืมครบถ้วนแล้ว

บริษัทฯจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินไอพีโออย่างมีนัยสำคัญ เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินจำนวน 150 ล้านบาท ที่กู้ยืมเพื่อชดเชยธุรกรรมการลงทุนในบริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่(PCCA) ที่มีอัตราดอกเบี้ย 2.8% ต่อปี ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการประหยัดดอกเบี้ย และลงทุนในธุรกิจประเภทสุขภาพและความงาม ช่วยให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างครบวงจร ลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเกิดการประสานประโยชน์ระหว่างกัน

ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการลงทุนในบริษัทย่อย ซึ่งประกอบธุรกิจขายตรงจำนวน 40 ล้านบาท โดย DOD ถือหุ้น 80% เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ และขออนุมัติเพื่อพิจารณาการออกและขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท(DOD-W1)จำนวนไม่เกิน 182.22 ล้านหน่วย จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน 2.25 หุ้นต่อ 1 หน่วยใบสำคัญฯ เสนอขายหน่วยละ 0.10 บาท และราคาใช้สิทธิแปลงเป็นหุ้นที่ 15.75 บาท อายุ 2 ปี

บอร์ดอนุมัติซื้อที่ดินจำนวน 24 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่ติดกับที่ดินแปลงปัจจุบันของบริษัทฯ มูลค่ารวม 85.97 ล้านบาท หรือราคาไร่ละ 3.5 ล้านบาท จากนางนิสาชล ซู คาดว่าการซื้อขายจะแล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค. 2562 และบอร์ดอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยโดย DOD ถือหุ้น 51% เพื่อประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารร่วมลงทุนกับ นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ (บุคคลภายนอก) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการจัดจำหน่ายอาหารเสริมรายใหญ่ในประเทศไทย