‘เจ.พี.มอร์แกน’ ผู้นำออก DW ลั่นรายแรกอ้างอิงดัชนี-หุ้นตปท.

HoonSmart.com>>เจ.พี.มอร์แกน วางแผนออก DW อ้างอิงดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ-หุ้นต่างประเทศในไตรมาส 3 ปีนี้ นับเป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นไทย พร้อมตั้งเป้าจะเป็นผู้ออก DW รายใหญ่สุดในไทยปีนี้ รวม 400 รายการ “ภากร”คาด DW มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือในการลงทุนทั้งตลาดขาขึ้น และตลาดขาลง

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เจ.พี.มอร์แกน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ที่อ้างอิงดัชนีหลักทรัพย์ต่างประเทศ และหุ้นในต่างประเทศ จะเป็นครั้งแรกที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทย โดยช่วงแรกมีแผนจะอ้างอิงกับดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกง และญี่ปุ่น เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องสูง ขณะนี้ต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ก่อน

กรรมการผู้จัการกล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าจะเป็นผู้ออก DW รายใหญ่สุดในประเทศไทยภายในปลายปีนี้ด้วย คาดว่าจะนำ DW เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ อย่างน้อย 400 ตัว แบ่งเป็น DW ที่อ้างอิงกับดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ และหุ้นต่างประเทศ ประมาณ 10% ส่วนที่เหลือจะอ้างอิงหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของไทย ซึ่งนับตั้งแต่ พ.ย.2561 จนถึงขณะนี้บริษัทได้ออก DW ที่อิงกับหุ้นไทยแล้วจำนวน 104 ตัว

สาเหตุที่มุ่งเน้นธุรกิจด้าน DW เพราะเจ.พี.มอร์แกน ที่ฮ่องกง เป็นผู้ออกรายใหญ่สุดในตลาดหุ้นฮ่องกง ปัจจุบันมีทั้งหมด 2,200 ตัว ตลาดหุ้นฮ่องกง เป็นตลาด DW ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่มูลค่าการซื้อขายรวม ดังนั้นจึงต้องการนำความรู้และประสบการณ์จากฮ่องกงเข้ามาใช้ในตลาดหุ้นไทย และมองว่าตลาดหุ้นไทยมีศักยภาพที่ดี มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก จึงเหมาะที่จะออก DW ทำให้บริษัทเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนรายย่อยได้มากขึ้น จากที่ผ่านมาบริษัทมีฐานลูกค้าเป็นนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก

นอกจากนี้ บล.เจพีฯยังเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทยที่ออก DW ที่มีความผันผวนแบบแปรผันและแบบคงที่ ที่มีราคาใช้สิทธิและวันครบกำหนดอายุของตราสารหนี้เท่ากันทำให้มีต้นทุนการถือครองที่ต่ำกว่า และช่วยเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่มีมากกว่าแก่นักลงทุน

นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน มูลค่าการซื้อขายของ DW มีการเติบโตประมาณ 5-8% ของมูลค่าการซื้อขายโดยรวม และมีบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้ออกจำนวน 15 ราย ส่วนเกณฑ์การออก DW ที่อ้างอิงกับดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ และหุ้นต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต.คาดว่าไตรมาส 3 ปีนี้น่าจะออกได้ ปัจจุบันตราสารประเภท Depositary Receipt (DR) และ ETF สามารถซื้อขายสินค้าต่างประเทศได้แล้ว

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า การซื้อขาย DW มีการเติบโตที่เร็วมาก และคาดว่าแนวโน้มจะยังมีการเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากเป็นเครื่องมือในการลงทุน ที่สามารถลงทุนได้ทั้งช่วงที่ตลาดหุ้นปรับขึ้น และปรับตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศในตลาดใหญ่ๆ จะพบว่าตราสารอนุพันธ์ หรือตลาดซื้อขายล่วงหน้า มีการเติบโตอย่างมาก ส่วนตลาดหุ้นไทยเพิ่งจะเริ่มไม่นาน จึงเชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ

“ตลาดหลักทรัพย์ มีแผนงานพัฒนา DW ให้ครอบคลุมสินค้าต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกและมีสินค้าที่หลากหลายตอบสนองต่อความต้องการของผู้ลงทุนมากขึ้น ซึ่งเจ.พี.มอร์แกน บริษัทชั้นนำด้านการเงินการลงทุน จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ DW ให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น”กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าว

ปัจจุบันประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาด DW ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย มีจดทะเบียนในตลาดมากกว่า 1,600 รายการ นับตั้งแต่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ในปี 2552