การเมืองเรื่องใกล้ตัว : ทำไมประเทศไทย ถึงเป็นเช่นนี้ (ตอนจบ)

โดย…อุเทน ชาติภิญโญ


ปรากฎการเมืองหลังการเลือกตั้งปี 2544 ภายใต้การบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ได้รัฐบาลที่แข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะดีต่อประเทศชาติและประชาชน แต่ภายใต้การสนับสนุนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ที่รับรู้กันดีว่า มีการซื้อตัวและควบรวมพรรคการเมือง ) และแล้วก็เป็นอย่างที่ทราบ ๆ กัน มีการลดแลกแจกแถม ซ่อนในนโยบายต่าง ๆ ประชาชนติดใจเหมือนติดยา ชื่นใจพร้อมชื่นชม จนเกิดความนิยมชื่นชอบ ภายใต้เสียงเชียร์ทั้งของสื่อมวลชนและประชาชน

รัฐบาลเหิมเกริม มีการให้สภาฯ ออกกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนหรือกลุ่มบริษัท แต่ประชาชนก็ยังเฉย ยอมรับ และแล้วเมื่อครบ 4 ปี ของรัฐบาล มีการเลือกตั้งอีกครั้ง รัฐบาลเก่านายกฯ คนเดิม ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่อยู่ครบ 4 ปี และยังคงชนะการเลือกตั้ง

ความสำเร็จบนหายนะก็มาถึง มีการเดินขบวน ประท้วง จนเกิดรัฐประหารปี 2549 นายกรัฐมนตรีคนนั้นก็ไม่ได้กลับมา หลังจากไปประชุมที่ต่างประเทศ ใครล่ะที่ส่ง ที่สนับสนุนคนที่ไม่สมควรแต่กลับได้เป็นนายกฯ ไม่ใช่ประชาชนรึ ที่เลือกพรรค คนในพรรคนี้มา แล้วใครล่ะ ที่ไม่ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายที่ถูกต้องเที่ยงธรรม

วันนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีเสียงไม่เอกฉันท์ที่ปล่อยทักษิณ ในคดีซุกหุ้น เชื่อรึยังล่ะ ว่าการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย มันมีมาตรฐานเดียวหรือไม่ นี่คือต้นเหตุจากอีกหลาย ๆเรื่อง จนเกิดคำว่า “กฎหมาย 2 มาตรฐาน” ประชาชนเริ่มไม่แน่ใจในผู้บังคับใช้กฎหมาย มีการเดินขบวนประท้วง จากหลาย ๆ กลุ่ม จากเหลือง มาน้ำเงินจนถึงแดง ต่างประท้วงกันไปมา สาเหตุจากกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ขาดความน่าเชื่อถือ ถ้าประชาชนเขื่อใจเชื่อมั่นในกฎหมาย บ้านเมืองจะเป็นแบบทุกวันนี้รึ

ทุกวันนี้ กระบวนการยุติธรรม ยังคงเป็นที่คลางแคลงใจ ขาดความไว้ใจจากประชาชน องค์กรอิสระ ที่มีตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชน การปราบปรามการทุจริตและคอรัปชั่น เป็นแค่วาทกรรมเป็นแค่อักษร เป็นเพียงบทเพลงโฆษณา ยากนะจะสำเร็จ ในเมื่อ ประชาชนขาดความรู้ ความคิด ความเข้าใจในสังคมที่ต้องมีจิตสำนึกรับผิดรับชอบ ที่สำคัญ ยังเห็นแก่ตัวมากขึ้นด้วย จนผู้ดูแลรักษากฎหมายหย่อนยานและเกิดการทุจริต ทำผิดเสียเอง

เหตุจากการบังคับใช้กฎหมาย เหตุจากการทุจริตคอรัปชั่น แล้วไม่ผิด จับกุมไม่ได้ หรือแกล้งคุ้ยจับไปไม่ถึง เล่นพรรคเล่นพวก วิ่งเต้น ประนีประนอม เพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ชนในหลายหมู่เหล่า มักชอบกล่าวอ้างถึงความจงรักภักดี เพื่อให้ดูดีมีความน่าเชื่อถือ สุดท้ายก็เพื่อตนเองเช่นเดิม

พอเถอะ น่าพอได้แล้ว หมดเวลาแล้วนะ หยุดสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเริ่มต้นทำดีพร้อมกัน โดยเฉพาะ พวกสื่อสารมวลชนต่าง ๆ หยุดเสี้ยมหยุดเชียร์ กันเสียทีเถิด เสี้ยมและเชียร์จนสังคมผิดเพี้ยน ประชาชนเข้าใจผิดไปหมด

สงกรานต์นี้ จงเริ่มที่เรา ที่ครอบครัวเรา ถ้าอยากเห็นประเทศไทยสงบสุข และเจริญพัฒนา เพราะแผ่นดินไทยนี้สมบูรณ์นักหนา เราไม่มีวิกฤตทางภูมิอากาศ ภูมิประเทศ เราไม่มีพายุ ไม่มีแผ่นดินไหวที่รุนแรง เรามีภูมิประเทศที่ดีพร้อม ทำการเพาะปลูก จับมือกันพร้อมพนมมือ ขอให้สัญญาว่า เราจะสามัคคี หยุดเห็นแก่ตัว รักบ้านเมือง พัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกันนะ

อ่านประกอบ

การเมืองเรื่องใกล้ตัว : ทำไมประเทศไทย ถึงเป็นเช่นนี้