บัวหลวงเพิ่มกลุ่มบ้าน ชู SPALI-PSH-AP ส่วน QH -SIRI ลุยสร้างรายได้

HoonSmart.com>>บล.บัวหลวงเพิ่มน้ำหนักกลุ่มบ้าน ราคาสะท้อนมาร์จิ้นหดตัวแล้ว แนะนำ SPALI-AP-PSH  ส่วน QH มั่นใจรายได้รวมปีนี้โตเข้าเป้า 8-10% เน้นแนวราบ ชะลอลงทุนคอนโดมิเนียม  SIRI เผย 3 เดือนแรกปิดยอดขาย 6,600 ล้านบาท ไตรมาส 2  เปิด 8 โครงการ มูลค่ารวม 1.65 หมื่นล้านบาท  

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)บัวหลวงปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มบ้านขึ้น 1 ขั้น เป็น”เท่ากับตลาด” จากเดิม”ต่ำกว่าตลาด” มองว่ามูลค่าที่ถูกกดดันในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงมาร์จิ้นที่คาดจะหดตัวไปแล้ว ขณะที่พื้นฐานของอุตสาหกรรมดีขึ้น อุปทานคงค้างคลายตัวลง เพราะมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงในช่วงครึ่งแรกปีนี้  คาดจะเห็นมาร์จิ้นผ่านจุดต่ำสุดในครึ่งปีแรก เหมือนสมัยน้ำท่วมใหญ่ หรือ การรัฐประหารปี 2014 นอกจากนี้คาดจะมีมาตรการกระตุ้น โดยลดค่าโอน-จำนอง หุ้น Top pick ของกลุ่มคือ SPALI, AP และ PSH และตัวรองคือ ANAN, LPN, QH และ SC

“แนะนำซื้อดัก PSH งบไตรมาส 1 /2562 เติบโตแรง 100% จากระยะเดียวกันปีก่อน จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนในการบริหารลดลง”บล.บัวหลวงระบุ

นายประวิทย์ โชติวัฒนาพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 8-10% ได้ตามเป้าหมาย หรือมีรายได้รวม 1.53 หมื่นล้านบาท รายได้หลักยังคงมาจากการพัฒนาโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ สัดส่วน 54% และ 30% ตามลำดับ ซึ่งมีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ LVT มากนัก

“บริษัทยังคงสร้างเสร็จก่อนขาย เพื่อให้รับรู้รายได้ทันที มีสต็อกโครงการแนวราบเพียงเล็กน้อย เพื่อควบคุมต้นทุนการขายและบริหารได้เหมาะสม บริษัทตั้งงบซื้อที่ดิน 3,500 ล้านบาท ราคายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราต้องปรับเพิ่มราคาขายราว 2-3%”นายประวิทย์กล่าว

สำหรับคอนโดมิเนียมสร้างรายได้ 16% แนวโน้มจะลดลง บริษัทชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ เช่น ที่ดินย่านลาดพร้าวเดิมจะสร้างคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ รอดูจังหวะตลาดก่อน  ภาวะการแข่งขันค่อนข้างสูง ปัญหาคอนโดมิเนียมล้นตลาดยังมีอยู่ รวมไปถึงเกณฑ์ LTV ใหม่ยังส่งผลกระทบถึงการซื้อคอนโดมิเนียม

นางสาวอภิญญา จารุตระกูลชัย รองกรรมการผู้จัดการ QH กล่าวว่า ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาได้เปิดโรงแรม Centre Point Hotel พัทยา จำนวน 556 ห้อง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 90% คาดว่าในปี 2563 จะพิจารณานำโรงแรมดังกล่าวขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) และกำลังศึกษาหาทำเลหัวเหมืองใหญ่ นำมาสร้างโรงแรม สร้างรายได้ประจำ ปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 7% ของรายได้รวม

บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้รวม 7,000 ล้านบาท และใช้เงินสดชำระคืน 2,000 ล้านบาท ทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบอายุในปีนี้รวม 9,000 ล้านบาท

ทางด้านบริษัท แสนสิริ(SIRI) นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ เปิดเผยว่า บริษัทปิดยอดขายไตรมาส 1/2562 เกือบ 6,600 ล้านบาท  มาจากแคมเปญ”โปรหมดเปลือก”สูงถึง 3,500 ล้านบาท พร้อมปิดการขาย 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต, บ้านไม้ขาว ภูเก็ต และดีคอนโด โคโค่ สุราษฎร์ธานี

นอกจากนั้นยังประสบความสำเร็จในการส่งทาวน์เฮาส์แบรนด์ “สิริ เพลส” เจาะตลาดภูเก็ตเป็นครั้งแรก สามารถสร้างยอดขายถึง 60% ในช่วงพรีเซลล์ หลังจากสร้างแบรนด์ สิริ เพลส ในกรุงเทพฯถึง 7 โครงการ ส่งผลให้ยอดขายทาวน์เฮาส์ เติบโตถึง 75% ในปีที่ผ่านมา

สำหรับแผนธุรกิจในไตรมาส 2 บริษัทมีแผนเปิดตัวอีก 8 โครงการ มูลค่ารวม 1.65 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 1.03 หมื่นล้านบาท บ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่า 5,700 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ มูลค่ารวม 500 ล้านบาท โดยในช่วงต้นเดือน เม.ย.ได้เปิดการขายคอนโดมิเนียมตากอากาศใจกลางหัวหิน “ลา ฮาบานา” มูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขายถึง 30%

“ไฮไลท์ในไตรมาส 2 บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการใหญ่ในย่านกรุงเทพกรีฑา เปิดตัว”เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ รวมถึงการรุกสร้างแบรนด์บ้านเดี่ยว “บุราสิริ” บรรยากาศรีสอร์ทใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น “นายอุทัยกล่าว