“ศุภโชค  ปัญจทรัพย์ ” ฉีกกฎกงสี บินเดี่ยว ปั้น ADAM บูติค ดีเวลลอปเปอร์

ศุภโชค  ปัญจทรัพย์  ทายาทรุ่น 3 ของ “ปัญจทรัพย์” 

“ผมไม่ชอบให้ใครเรียกลูกเสี่ย ” คำพูดนี้ เป็นแรงผลักให้เขาคิดนอกกรอบของคำว่า  “กงสี”  ออกมาบินเดี่ยวสร้างอาณาจักร “แอทเซท ไฟว์” มีเป้าหมายเข้าตลาดหุ้น  ผ่านการเทคโอเวอร์ ใน ” อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น”  ที่เรียกตัวเองว่าเป็น “บูติค ดีเวลลอปเปอร์” 

ศุภโชค ปัญจทรัพย์

โทนี่- ศุภโชค ปัญจทรัพย์ หนุ่มน้อยซีอีโอ บริษัท แอทเซท ไฟว์  ดีเวลลอปเมนท์ วัย 38 ปี  ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล “ปัญจทรัพย์” หรือหลานปู่ “โชคชัย ปัญจทรัพย์  “ที่รู้จักกันดีว่า เป็นผู้นำบุกเบิกอสังหาริมทรัพย์ยุคแรก ปี 2506 หรือ 56 ปีที่แล้ว ให้สัมภาษณ์พิเศษ “HoonSmart”

จุดเริ่มต้น ของ “โชคชัย ปัญจทรัพย์ “ ชาวปราจีนบุรี ซึ่งพ่อ-แม่ ได้ย้ายถิ่นฐานจากซัวเถา มาปักหลักที่จังหวัดปราจีนบุรี ก่อนจะย้ายมาเริ่มทำธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยการนำบ้านมาปล่อยเช่า วงเวียนใหญ่   ก่อนย้ายข้ามฟากมาปักหลัก บุกเบิกการทำโครงการบ้านจัดสรรและที่ดินย่านลาดพร้าว เมื่อปี 2505 หรือเมื่อ 57 ปีก่อน อาทิหมู่บ้านปัญจทรัพย์ หรือการปรับปรุงถนนโชคชัย 4 เป็นที่รู้จักกันดี และหากใครผ่านไป-มา บนถนนลาดพร้าว 16 จะเห็นอาคารโชคชัย ปัญจทรัพย์ 5 ชั้นครึ่ง ตั้งเด่นเป็นสง่ามายาวนาน เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลนี้

“โทนี่” ลูกชายคนกลางของ “ชนินท์ ปัญจทรัพย์” ซีอีโอหนุ่ม ที่บินเดี่ยว ลุกขึ้นมาทำธุรกิจอสังหา ฯ  มีความใฝ่ฝัน สักวัน ต้องได้ขึ้นแท่นผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ นำบริษัท อดามัส เรียลเอสเตท ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2556 พัฒนาโครงการโลว์ไลฟ์ ไวโอ 1-2 ย่านแคราย นนทบุรี เข้าตลาดหุ้น แต่สุดท้ายการเข้าตลาดหุ้นทางอ้อม ผ่านบริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น หรือ ADAM ด้วยการเทคโอเวอร์ เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา เร็วกว่าการเข้าตลาดหุ้นทางตรง 

หากจะพูดถึงซีอีโอ อายุน้อย 100 ล้านอีกคนในยุคนี้ เขาเป็นเด็กหนุ่ม  เกิดมาเป็นลูกอาเสี่ย แต่ไม่ชอบให้ใครเรียกลูกอาเสี่ย การพิสูจน์ความสามารถของเขา ด้วยการหาเงินหลัก “ล้าน” ตั้งแต่อายุ 17 ปี  หรือเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ( ABAC ) ปี 1 จากทุนเริ่มต้น 30,000 บาท จับธุรกิจขายแซกโซโฟน มือ 2 แบรนด์ดัง Selmer ยุคเริ่มต้นการสื่อสารด้วยอินเตอร์เน็ต สามารถหากำไรเป็นกอบเป็นกำ ก่อนที่คนอื่นจะตามทัน โทนี่ ก็ได้กำเงิน “ล้าน” ไปลงทุนในตลาดหุ้น ทันทีที่จบการศึกษา กำไรหลัก ” ล้าน” จากการขาย Selmer มือ 2 สร้างกำไรทวีเท่าตัวให้กับ “โทนี่ ” ในปี 2545

หลังจบการศึกษาด้านการตลาด จาก ABAC และต่อปริญญาโทด้านอสังหาริมทรัพย์ ม.ธรรมศาสตร์แล้ว การออกมาหาประสบการณ์เป็นลูกจ้าง เรียนรู้งานก่อนเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยไปอยู่ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ปีครึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่การตลาด

ชีวิตของโทนี่ คลุกคลีอยู่กับการทำอสังหา ฯ ของครอบครัว ติดตามครอบครัว ลงโครงการได้เรียนรู้ทุกอย่าง ตั้งแต่การเป็นโฟรแมน ขอโปรเจคไฟแนนซ์ ทำการตลาด

เมื่อสะสมประสบการณ์เข้าที่ ผนวกกับนิสัยรักดี รักหาเงิน รักการทำธุรกิจ เริ่มจากการเข้าไปช่วยบริษัท บ้านรื่นฤดี กรุ๊ป  ของครอบครัวทางแม่-น้า ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ บ้านรื่นฤดี รามอินทรา-หทัยราษฏร์ เฟส 2-8 บนพื้นที่ 40 ไร่

จากโครงการ บ้านรื่นฤดี “โทนี่” คิดการใหญ่ ปี 2556 ได้ตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ ” อดามัส เรียล เอสเตท”  พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไวโอ 1 เป็นคอนโด 8 ชั้น

” จุดตัดที่ทำให้ผมบินเดี่ยวเริ่มมาจาก โครงการไวโอ 1-2 ที่ลงทุนตั้งบริษัทกับน้าเขย ซึ่งผมถือว่าเป็นครูสอนผม เพราะท่านเก่งไฟแนนซ์และก่อสร้าง แต่ทำได้ 4-5 เดือน ก็เสียชีวิต ทำให้ผมบินเดี่ยวตั้งแต่นั้นมา และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น แอสเซท ไฟว์  ดีเวลลอปเมนท์ หลังจากโครงการแรกของผมประสบความสำเร็จ ปลายปี 2558 ผมอยากเปลี่ยนภาพลักษณ์บริษัท ปักธงทำบ้านหรู ที่เป็นสไตล์ เป็นตัวตนของเรา ผมเรียกตัวเองว่าเป็น “บูติค ดีเวลลอปเปอร์”  มีความทันสมัย จึงซื้อที่ดิน เริ่มพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว ” วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครรินทร์  เฟส 1 ” มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท  เป็นบ้านหรูของคนเจน y  ราคาตั้งแต่ 20-40 ล้านบาท เพียง 3 เดือนแรก เปิดขายกว่า 50 % ”

โทนี่ บอกว่า โครงการ วนา เรสซิเดนซ์  เป็นอีกจุดตัด ที่ทำให้เขาได้ก้าวไปอีกขั้น พิสูจน์ความสำเร็จของตัวเอง  ผมมาถึงวันนี้ได้  ส่วนหนึ่งมาจากตัวเองที่รักดี รักการเงิน รักการทำธุรกิจ ไม่ต้องพึ่งกงสี  จากโครงการวนา 1 ที่ประสบความสำเร็จ เตรียมเปิด วนา เรสซิเดนซ์ โครงการ 2 ปี 2563

เมื่อจุดตัด ทั้ง 2 จุด ของ “โทนี่ ”  จาก ไวโอ 1-2 สู่ วนาเรสซิเดนซ์  ทำให้ แอทเซท ไฟว์ และ  “โทนี่ ” ได้ก้าวขึ้นสู่ เจ้าของ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ในบริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น  ( ADAM ) สำเร็จ โดยมีเป้าหมายการเป็น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัย เต็มรูปแบบ เป็น “บูติค ดีเวลลอปเปอร์” ที่ได้เปรียบผู้ประกอบการรายใหญ่ คือ การเลือกกลุ่มผู้อยู่อาศัยได้ทุกกลุ่ม  สร้างจุดแข็งให้ทุกโครงการ บนทำเลที่มีความต้องการจริง ตรงความต้องการของลูกค้า

และอีกไม่นานเกินรอ ความฝันของ ศุภโชค ปัญจทรัพย์ จะบังเกิดจริง เมื่อหุ้น ADAM กลับมาซื้อขายอีกครั้งบนกระดานหุ้น ที่เขาจะพูดได้เต็มปากว่า ทายาทรุ่น 3 ของ “ปัญจทรัพย์” กำลังกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งด้วยน้ำมือของเขา กับการเปิดตัวโครงการหรูย่านกลางเมืองเร็ว ๆ นี้