TU กำไร 1.27 พันล้าน โต 46% ดีกว่าตลาดคาด

HoonSmart.com>>”ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” อวดกำไรไตรมาสแรก 1.27 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.5% ธุรกิจหลักฟื้นตัวหนุนยอดขาย 2.9 หมื่นล้านบาท โบรกฯ ชี้ผลงานดีกว่าตลาดคาดไว้ 21%

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) กำไรสุทธิไตรมาส 1/2562 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 จำนวน 1,273.39 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.27 บาท เพิ่มขึ้น 46.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 868.99 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.18 บาท

กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นผลหลักมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะปริมาณขายที่ปรับเพิ่มขึ้น อัตรากำไรที่ฟื้นตัวดีขึ้นและความพยายามที่จะควบคุมต้นทุนในการดำเนินงาน โดยบริษัทฯ มียอดขาย 29,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยถูกกระทบจากค่าเงินยูโรและค่าเงินปอนด์อ่อนค่าเมื่อเทียบเงินบาท ส่งผลให้กำไรอัตราแลกเปลี่ยนลดลงเหลือ 81 ล้านบาท จากงวดปีก่อนมีกำไร 580 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามหากกันผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนออก ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 2.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของยอดขายธุรกิจอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจากปีก่อนหน้า แม้เงินเหรียญสหรัฐในไตรมาส 1/2562 จะทรงตัวจากปีก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 0.2% แต่ค่าเงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนค่าลง 7.4% และ 6.3% เมื่เทียบเงินบาท โดยยอดขายในรูปสกุลเงินเหรียญสหรัฐในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 929 ล้านเหรียญ

บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 4,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน การปรับฟื้นตัวของอัตราทำกำไรเป็นผลมาจากสภาวะราคาวัตถุดิบที่มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจทูน่า การฟื้นตัวยังได้ผลดีจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและการมุ่งเน้นการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยง โดยอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2562 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14.9% จาก 11.6% ในไตรมาส 1/2561

นอกจากนี้บริษัทฯ บันทึกส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 347 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 301 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะธุรกิจ Avantu Frozen ในประเทศอินเดียดีขึ้น

บริษัทฯ แจ้งอีกว่า บริษัทฯ ได้เข้าซื้อที่ดินบริเวณชายหาดนาใต้ อำเภอตะกั่วทุ่ม จังหวัดพังงา จากบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มูลค่า 440 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจเพาะพันธุ์สัตว์น้ำของบริษัท ไทยยูเนี่ยน แฮชเชอรี่ จำกัดในปัจจุบันและการขยายธุรกิจในอนาคต

นอกจากนี้ได้จัดตั้งบริษัท ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจน้ำมันปลา ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 99.99% ซึ่งจะโอนธุรกิจโรงงานสกดัดน้ำมันปลาที่อยู่ใต้การดูแลของบริษํท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรมและหน่วยธุรกิจ Ingrediet ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจภายใต้บริษัทฯ มาอยู่ภายใต้บริษัทใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนการบริหารจัดการธุรกิจและควบคุมคุณภาพของน้ำมันปลาสกัด รวมการบริหารห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่วัตถุดิบถึงลูกค้าอย่างสมบูรณ์และรองรับขยายตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุว่า TU ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/19 มีกำไรสุทธิ 1,273 ล้านบาทหรือ กำไรต่อหุ้น (EPS) 0.27 บาท (46.5% yoy, +19.3% qoq) แต่หากตัดรายการพิเศษออกจะมีกำไรปกติ 1,111 ล้านบาท ดีกว่าที่ตลาดคาด 21% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 20.51 บาท (Buy/Hold/Sell : 17/7/1)