JAS เผยอนุญาโตฯ ชี้ขาดข้อพิพาทเคเบิ้ลใต้น้ำบ.ย่อยได้รับเงินกว่า 3.7 พันล.

HoonSmart.com>>”จัสมินฯ” เผยคณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาดข้อพิพาทโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ (ฝั่งตะวันออก) JSTC ได้รับเงินส่วนแบ่งรายได้รวมดอกเบี้ย 3.7 พันล้านบาท ส่วนข้อพิพาทเรื่องรับรายได้เกินตามสัญญาร่วมทุนให้ JSTC จ่ายไม่เกิน 11 ล้านบาท นักลงทุนเก็งกำไรดันราคาหุ้นบวกกว่า 3%

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) แจ้งผลคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการสำหรับข้อพิพาทระหว่างบริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ (JSTC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยกับคู่พิพาทรายหนึ่ง(ผู้คัดค้าน) และบริษัทอีกรายหนึ่ง (ผู้ร้องสอด) ซึ่ง JSTC ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อเรียกร้องให้ผูคัดค้านชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ (ฝั่งตะวันออก) (สัญญาร่วมทุน) เป็นจำนวนประมาณ 3,395 ล้านบาทนั้น

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 บริษัทฯ ได้รับทราบคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ฉบับวันที่ 29 เม.ย.2562 ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด โดยมีสาระสำคัญ ให้ผู้คัดค้านรับผิดชอบเงินชำระเงินส่วนแบ่งรายได้ตั้งแต่งวดเดือนก.ย.2551-3 ต.ค.2554 รวมทั้งดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน 2,517,742,568.66 บาท จนถึงวันที่เสนอข้อพิพาท (22 ธ.ค.2557) เป็นค่าดอกเบี้ยจำนวน 877,608,644.07 บาท รวมเงินต้นค้างชำระพร้อมเอกเบี้ยจำนวน 3,395,351,212.73 บาทและดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปีของเงินต้น 2,517,742,568.66 บาท นับแต่วันที่เสนอข้อพิพาทเป็นต้นไปจนกว่าผู้คัดค้านจะชำจนเสร็จสิ้น คิดเป็นยอดเงินรวม 4,223,102,194.21 บาท (เมื่อคำนวณดอกเบี้ยอัตรา 7.5% ต่อปี) นับแต่วันที่เสนอข้อพิพาทจนถึงวันที่ 9 พ.ค.2562

ในการรับเงินส่วนแบ่งรายได้ดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาโอนสิทธิและหน้าที่การรับเงินตามสัญญาสัมปทานและเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่ JSTC และผู้ร้องสอดได้ปฏิบัติต่อกันมาด้วยการร่วมกันรับเงินส่วนแบ่งรายได้จากผู้คัดค้าน โดยผู้ร้องสอดมีสิทธิได้รับเงินส่วนแบ่งรายได้จำนวน 425,719,738.16 บาท (ณ วันสิ้นปี 2560) โดยเงินส่วนแบ่งรายได้ส่วนที่เหลือให้เป็นของ JSTC

ส่วนข้อพิพาทเรียกร้องให้ JSTC คืนเงินส่วนแบ่งรายได้ที่ผู้เรียกร้องกล่าวอ้างว่า JSTC รับเกินไปตามสัญญาร่วมลงทุนฯ พร้อมด้วยให้ชำระค่าซ่อมแซมเครื่องมือ อุปกรณ์ และทรัพย์สินในโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำฝั่งตะวันออก รวมถึงค่าเสียโอกาสในการประกอบธุรกิจ เป็นเงินรวมประมาณ 9,931 ล้านบาทนั้น

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 มีคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ฉบับลงวันที่ 29 เม.ย.62 ให้ JSTC ชำระค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 15,821,600 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี ของเงินต้น 15,821,600 บาท นับแต่วันที่ 29 เม.ย.2558 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ผู้เรียกร้อง โดยค่าดอกเบี้ยนับถึงวันยื่นคำเสนอข้อพิพาท (19 ส.ค.2559) ซึ่งต้องเป็นเงินไม่เกินจำนวน 11,522,128.23 บาท ทั้งนี้ สำหรับเงินส่วนแบ่งรายได้และข้อเรียกร้องอื่น ๆ เป็นเงินประมาณ 9,900 ล้านบาท ตามคำเสนอข้อพิพาทข้างต้นนั้น JSTC ไม่มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่ผู้เรียกร้องแต่อย่างใด

ด้านราคาหุ้น JAS เปิดตลาดพุ่งรับข่าวดีแตะ 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท และไต่ขึ้นสูงสุดแตะ 5.80 บาท ณ เวลา 10.13 น. อยู่ที่ 5.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 3.60% มูลค่าการซื้อขาย 144.24 ล้านบาท