KTAM แนะลงทุน “ทองคำ” รับมือสงครามการค้ายืดเยื้อ

HoonSmart.com>>บลจ.กรุงไทย แนะสะสมกองทุนทองคำติดพอร์ต ช่วยกระจายความความเสี่ยง รับมือสงครามการค้ายืดเยื้อ เฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย แนะกอง KT-Finance ด้านกองหุ้นอาเซียน ได้ผลดีย้ายฐานการผลิตออกจากจีน

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ภายหลังจากสหรัฐปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจาก10% เป็น 25% เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้จีนตอบโต้โดยการพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐกว่า 5,000 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 60,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 โดยทางฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์เห็นว่า ในช่วงเวลานี้ การสะสมทองคำควรมีไว้บ้างในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่เฟดยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

บริษัทนำเสนอกองทุนเปิดเคแทม โกลด์ ฟันด์ (KT-Gold) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust เน้นลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ โดยผลการดำเนินงาน กองทุน KT-Gold ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD (2 ม.ค.-30เม.ย.62) อยู่ที่ -0.66% ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 3.27% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -5.48% เทียบกับ Banchmark (LBMA Gold Price AM USD (THB) YTD อยู่ที่ -0.88% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.31% และ 1 ปี อยู่ที่ -1.05%

ส่วนอีกกองทุนที่น่าสนใจเกี่ยวข้องกับทองคำเช่นกัน คือ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพรเชียส เอคควิตี้ (KT-Precious) ลงทุนในกองทุน Franklin Gold and Precious Metals Fund เน้นลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับทองคำและโลหะมีค่า เช่น แพลทินัม พาลาเดียมและเงิน เป็นหลัก โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD อยู่ที่ 1.02% 6 เดือน อยู่ที่ 5.64% และ 1 ปี อยู่ที่ -8.64% เทียบกับ Benchmark (FTSE Gold Mines Index USD (THB) YTD อยู่ที่ -0.96% 6 เดือนอยู่ที่ 6.71% และ 1 ปี อยู่ที่ -4.59%

นอกจากนี้อีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ ถึงแม้เผชิญแรงกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว โดยสิ้นวันที่ 13 พฤษภาคม ผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 3 เดือน อยู่ที่ 2.41% สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ 2.40% ทั้งนี้ คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ น่าจะส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลายออกมาเพื่อประคองตลาด จึงคาดว่าหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์น่าจะปรับตัวขึ้นได้

หากนักลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนผ่านกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟันด์ (KT-Finance) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Fidelity Funds- Global Financial Services Fund เน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการให้บริการทางด้านการเงิน มีนโยบายที่จะสร้างผลตอบแทนระยะยาว จากการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการเงินแก่ผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD อยู่ที่ 8.50% 6 เดือนอยู่ที่ 9.59% และ 1 ปี อยู่ที่ -6.69% เมื่อเทียบกับ Benchmark (MSCI South East Asia Index NR USD (THB) YTD อยู่ที่ 15.99% 6 เดือน 7.17% และ1 ปี อยู่ที่ 3.81% เมื่อเทียบกับ Benchmark (MSCI ACWI Financials Net TR USD Index) YTD อยู่ที่ 14.11% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.67% และ 1 ปี อยู่ที่ -1.24 %

นอกจากนี้นักลงทุนบางคนอาจจะกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าว่าจะยืดเยื้อใช้เวลาอีกนานกว่าจะตกลงกันได้ การลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนก็มีความน่าสนใจ เพราะหลายประเทศในกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ซึ่งประเด็นนี้น่าจะช่วยชดเชยปัจจัยลบจากบรรยากาศสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และน่าจะทำให้หุ้นอาเซียน ทนต่อปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้า เหนือกว่าหุ้นในตลาดอื่นๆหากนักลงทุนที่สนใจจะมีกองทุนดังกล่าวไว้ในพอร์ต

บริษัทแนะนำกองทุนเปิดเคแทม อาเซียน อิควิตี้ ฟันด์ (KT-ASEAN) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ JP Morgan Funds- ASEAN Equity Fund เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัท ที่มีภูมิลำเนา หรือมีผลการดำเนินงานหลักของบริษัทมาจากประเทศที่เป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียน โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD อยู่ที่ 8.50% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 9.59% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -6.69% เมื่อเทียบกับ Benchmark (MSCI South East Asia Index NR USD (THB) YTD อยู่ที่ 6.52% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.35% และ 1 ปี อยู่ที่ -2.85 %