HoonSmart.com>>สำนักงานก.ล.ต.-สภาวิชาชีพผู้สอบบัญชี มีบทบาทอย่างไรในการดำเนินการกับสำนักงานสอบบัญชี “อีวาย” ที่ “ระบบควบคุมคุณภาพสำนักงาน” บกพร่อง ปล่อยอดีตผู้ช่วยผู้สอบบัญชี ใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์เดอร์) งบการเงินลูกค้าอีวาย 12 บริษัท ไปหาผลประโยชน์ลงทุนในตลาดหุ้น
เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง กับข่าวการประกาศเชือด อดีตผู้ช่วยผู้สอบสำนักงานสอบบัญชี “อีวาย” 1 ใน 4 ของโลก ที่นำเอาข้อมูลงบการเงินของลูกค้าอีวาย จำนวนมากถึง 12 บริษัท ไปใช้ประโยชน์ในการลงทุน พฤติกรรมนี้ ไม่ควรเกิดขึ้น ??? เพราะนี่คือจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพผู้สอบบัญชี คือผู้ที่ล่วงรู้ ใกล้ชิดตัวเลขข้อมูลการเงิน ไม่แพ้เจ้าของบริษัท และผู้บริหารการเงินสูงสุด ( CFO ) ของบริษัท เมื่อผู้สอบบัญชี ผู้ใกล้ชิดข้อมูลการเงินอย่างดี กลับทำผิดนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ซะเอง แล้วจะหาใครที่ไว้ใจได้อีก
ความผิดของผู้สอบบัญชีครั้งนี้ ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า เป็นความบกพร่องของ “ระบบควบคุมคุณภาพสำนักงาน” หรือ TSQC 1 ซึ่งเป็นมาตรฐานหนึ่งของการสอบบัญชี ที่ช่วยป้องกันข้อมูลรั่วไหล รวมทั้ง EY มีวิธีการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชี ผู้ช่วยผู้สอบบัญชี ตลอดจนพนักงานสอบบัญชีในสำนักงานทั้งหมด อย่างไร ถึงมีการนำข้อมูลภายในของลูกค้า จำนวน 12 บริษัท ออกมาใช้ประโยชน์
ตามปกติแล้ว สำนักงานสอบบัญชี ที่มี “ระบบควบคุมคุณภาพสำนักงาน” ที่มีคุณภาพ มีระบบป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล จากบุคคลหนึ่งสู่บุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะผู้สอบบัญชี จะรู้ข้อมูลเฉพาะบริษัทที่ตัวเองตรวจสอบเท่านั้น จะไปล่วงรู้บริษัทอื่นที่ไม่ได้ตรวจสอบไม่ได้เลย
ระบบควบคุมคุณภาพสำนักงาน ไม่ใช่แค่ จรรยาบรรณผู้สอบที่ไม่แพร่พรายข้อมูลลูกค้า หรือนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เท่านั้น จรรยาบรรณที่สำคัญอีกอย่างคือ หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นที่ตรวจสอบ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และการลงทุนในหุ้นทุกครั้งต้องรายงานสำนักงานต้นสังกัด
สำหรับอดีตผู้ช่วยผู้สอบบัญชี ของ อีวาย ทั้ง 3 คน ทำไมถึงล่วงรู้ข้อมูลงบการเงินได้ถึง 12 บริษัท ต้องมาดูว่า ระบบควบคุมคุณภาพสำนักงานของ อีวาย บกพร่องระดับไหน ????
การประพฤติผิดวิชาชีพผู้สอบบัญชี ผิดจรรยาบรรณ สมควรที่สภาวิชาชีพบัญชี น่าจะเรียกสอบจรรยาบรรณเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนนี้ วโรตม์ หน่อแก้ว-จีรนันท์ บูรณรักษ์-จีราภรณ์ บูรณรักษ์ หากมีไลน์เซ่น หรือ ใบอนุญาตผู้สอบบัญชีของทั้ง 3 ราย ต้องถอดไลน์เซนนี้ทันที เพื่อปิดช่องไม่ให้ไปใช้ประโยชน์จากบริษัทอื่นอีก
ทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต. ) รวมทั้งสภาวิชาชีพบัญชี มีบทบาทอย่างไรในการดำเนินการกับผู้สอบบัญชี รวมถึงสำนักงานสอบบัญชีต้นสังกัดด้วย
น่าตกใจ! สำนักงานผู้สอบบัญชี ไม่อยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานใดเลย
สำนักงานก.ล.ต.จะกำกับดูแลเฉพาะรายผู้สอบบัญชีที่มาขึ้นทะเบียนเท่านั้น ซึ่งกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ไม่ได้กำกับดูแล “ต้นสังกัด” สำนักงานผู้สอบบัญชี ก.ล.ต.จึงล้วงลูกเข้าไปไม่ถึง ทำได้เพียงการลงโทษผู้สอบบัญชี ที่กระทำผิดเท่านั้น ขณะที่หน่วยงานการกำกับดูแลของหลายประเทศ ควบคุมถึงสำนักงานสอบบัญชีด้วย นั่นหมายถึงว่า กรณีที่ผู้สอบบัญชีทำผิด สำนักงานสอบบัญชีต้นสังกัด ต้องถูกลงโทษรับผิดชอบด้วย ไม่ปล่อยความผิดให้ผู้สอบรายบุคคลเหมือนกรณีผู้สอบ อีวาย ทั้ง 3 คนนี้
หรือสำนักงานก.ล.ต. ทำได้เพียง การส่งหนังสือเวียนให้สำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนทุกแห่ง ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการจัดให้มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความลับของลูกค้า โดย ก.ล.ต. จะติดตามดูแลระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนทุกแห่งอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ และความเป็นธรรมในตลาดทุนต่อไป
อ่านประกอบ
“อีวาย”ชี้แจงผ่านเว็บฯ ยันระบบเข้ม จ่อดำเนินคดี 3 อดีตพนักงานอินไซด์ฯ