KTBST ลั่นโต 26% รายได้มั่นคง บริการครบวงจร

HoonSmart.com>>KTBST มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 1,300 -1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% คาดสงครามการค้ามีข้อสรุปครึ่งปีหลัง หนุนธุรกิจดีขึ้น บริษัทชูกลยุทธ์กระจายรายได้บริหารความเสี่ยง ก้าวสู่ผู้นำให้บริการผลิตภัณฑ์ตลาดทุน-การเงินครบวงจร  พัฒนาเทคโนโลยี เครื่องมือการลงทุน

นาย วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2562 ที่ 1,300 –1,400 ล้านบาท เติบโต 26% โดยมุ่งขยายธุรกิจให้มีความหลากหลาย ทั้งการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล คาดมีสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำ (AUA) เพิ่มขึ้น 33.33% เป็น 80,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลตั้งเป้า AUM เติบโต 50% เป็น 3,000 ล้านบาท จากจำนวน 2,000 ล้านบาท ธุรกิจตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนตั้งเป้า AUA ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% จาก 10,000 ล้านบาท

ส่วน บลจ. วี ตั้งเป้า AUM เติบโต 6,000 ล้านบาท และเคทีบีเอสที รีทส์ แมเนจเม้นท์ ตั้งเป้าตั้งกองรีทจำนวน 3 กองทุน มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท รวมถึงตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาดของการซื้อขาย TFEX ให้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรม

“บริษัทเน้นกระจายธุรกิจ เพื่อยกระดับการให้บริการด้านการลงทุนครบวงจรมากขึ้น รับมือกับภาวะการแข่งขันในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เน้นการกระจายรายได้จากหลายช่องทาง ควบคู่การแนะนำบริหารความเสี่ยงให้แก่นักลงทุน”นายวินกล่าว

ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2562 บริษัทมีรายได้รวม 322.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 23.7 ล้านบาท โดยมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริการ เพิ่มขึ้นเป็น 50 – 60% จากสิ้นปี 2561 ที่มีสัดส่วน 40% ส่วนรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์(คอมมิชชัน) ลดลงเหลือ 30 – 40% จากสิ้นปี 2561 ที่มีสัดส่วน 50%

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 เชื่อว่าจะสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าค่าคอมมิชชันจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์รวมที่ลดลง แต่บริษัทจะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น เช่น งานวาณิชธนกิจ ตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน งานบริการทางการเงิน และบล.วี ได้เปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในไตรมาส 2 เสนอขายกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ต่างประเทศ อาทิ ลงทุนในสหรัฐฯ,จีน,และอินเดีย เป็นต้น ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี ล่าสุด บลจ.วี อยู่ระหว่างศึกษาโอกาสในการลงทุนอื่น ๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี และเครื่องมือการลงทุน โดยเปิดตัวแอพพลิเคชั่น KTBST SMART เป็นแพลตฟอร์มที่รวมข้อมูลผลิตภัณฑ์การลงทุนของ KTBST ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตราสารทุน ตราสารหนี้ อนุพันธ์ กองทุนรวม และการลงทุนต่างประเทศไว้ในที่เดียว เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการดูพอร์ต และข้อมูลการลงทุน ช่วยในการตัดสินใจลงทุน พร้อมมุ่งเน้นพัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกรรมการฝากและถอนเงินในบัญชี รองรับการซื้อขายกองทุนรวม

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดบริการ KTBST SOCIAL TRADING รายแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่รองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ ผ่านแอพพลิเคชั่น SKYNET Stock Trading ซึ่งเป็นนวัตกรรมการลงทุนในรูปแบบเครือข่ายสังคมออนไลน์คุณภาพที่แบ่งปันข้อมูล แนวคิด และกลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนออนไลน์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันในสังคมผ่านการปฏิบัติจริง

นายชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ KTBST กล่าวว่า KTBST คาดว่าสงครามการค้าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และอาจสามารถหาข้อสรุปได้ภายในครึ่งหลังของปีนี้

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในครึ่งปีหลัง มองว่าการปรับตัวลดลงของสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น เป็นโอกาสในการลงทุนในตลาดหุ้นที่แนวโน้มการเติบโตในระยะยาว มีความมั่นคงทางการเมือง และมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับที่ต่ำ เช่น จีนและอินเดีย เป็นต้น

ปัจจุบัน จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีอัตราการเติบโต อยู่ที่ 6 – 6.5% ต่อปี ในระยะยาวตั้งเป้าจะเติบโต 5.5% สูงกว่าประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะยาวที่ 3% นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรของตลาดหุ้นจีนในปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 17% พี/อี เพียง 0.78 เท่า ถูกกว่าตลาดเกิดใหม่ที่ระดับ 2.8 เท่า และตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ที่ 1.6 เท่า

สำหรับอินเดีย ยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7% ต่อปี จากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก และมีเสถียรภาพทางการเมืองที่สูงขึ้น นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นอินเดียซื้อขายที่พี/อี 0.6 เท่า ต่ำกว่าทั้งในตลาดโลกและตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ดีการลงทุนในต่างประเทศย่อมมีความเสี่ยงเพิ่มเติม ทั้งการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารการลงทุนที่มีจำกัดกว่าการลงทุนในประเทศ และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาด้านความเสี่ยงควบคู่กันไปด้วย