NWR รอคดี PE สิ้นสุดบันทึกกลับรายการหนี้สูญ 650 ล้าน

HoonSmart.com>>”เนาวรัตน์พัฒนาการ” รอบันทึกกลับรายการหนี้สูญชนะคดี PE พร้อมยื่นอายัดหุ้น บ.ย่อย PE ขายทอดตลาด ด้านบล.ดีบีเอสฯ ชี้คดียังไม่สิ้นสุด ปรับคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ” ราคาเป้าหมาย 0.90 บาท

บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.62 ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้มีคำพิพากษาคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีฟื้นฟูกิจการ คดีหมายเลขแดงที่ พก 14/2560 ให้ บริษัท พรีเมียร์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ (PE) ชำระหนี้เงินต้น 473,466,980.61 บาท พร้อมดอกเบี้ยคำนวณจนถึงวันที่ 2 เม.ย.55 จำนวน 363,754,111.07 บาท รวมเป็นเงิน 837,221,091.68 บาท และชำระดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี ของเงินต้น 473,466,980.61 บาท นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.55 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้ในงบการเงินของบริษัก่อนปี 48 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 650,797,184.99 บาท เต็มตามจำนวนหนี้ที่ค้างชำระ และหากบริษัทได้รับเงินมาก็จะถือเป็นรายได้หนี้สูญรับคืนต่อไป

ทั้งนี้ บริษัท ได้ยื่นเรื่องต่อกรมบังคับคดีแจ้งอายัดหุ้นสามัญของบริษัท พรีเมียร์อินเตอร์ลิซซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PE จำนวน 15,660,129 หุ้นที่ PE ถือครองอยู่ หุ้นดังกล่าวต้องนำไปขายทอดตลาดและนำเงินมาชำระคืนบริษัทต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ปรับคำแนะนำหุ้น NWR จากขาย เป็น ถือ ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 0.90 บาท เนื่องจากมองว่าศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ PE ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ย แต่ยองต้องรอผลฎีกาก่อน จึงจะได้รับเงินเมื่อศาลมีการบังคับคดี ซึ่งเมื่อวานนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรับข่าว 2.53%

สำหรับแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/62 ยังไม่สดใส ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากรายได้ยังมาช้าและบันทึกผลประโยชน์พนักงานที่ทำงานมากกว่า 20 ปี ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 400 วันจากเดิมสูงสุด 300 วัน ซึ่งบริษัทคาดว่าจะต้องบันทึกค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ขณะที่ฐานเปรียบเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นขาดทุน (Core Losses) 28 ล้านบาทและขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาท ด้านผลดำเนินงานไตรมาสแรกที่ผ่านมาขาดทุน (Core Losses) ทั้งจากการดำเนินงานและขาดทุนสุทธิ 28 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในงวดครึ่งปีหลังนี้ต้องติดตามว่างานก้อสร้างรถไฟฟ้าจะล่าช้าหรือไม่ ได้แก่ งานรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู รับเหมาช่วงมาจาก STEC รวมทั้งรายได้จากบริษัทย่อย คือ แอดวานซ์ พรีแฟบ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะพลิกมาเป็นกำไรหลังปี 61 ขาดทุน แต่ข้อดีบริษัทมีโอกาสจะได้งานก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มหลังมีรัฐบาลใหม่แล้ว

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ปรับประมาณคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะลดลง 78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะฐานปี 61 มีกำไรพิเศษชนะคดีความบันทึกมากถึง 310 ล้านบาท แต่ปี 63 กลับเพิ่มก้าวกระโดด 60% เพราะฐานปีนี้มีบันทึกสำรองค่าชดเชยพนักงาน แต่ปี 63 ไม่มี

หุ้น NWR ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 0.83 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 2.47% มูลค่าการซื้อขาย 7.55 ล้านบาท

อ่านประกอบ

PE ดิ้นฏีกา หลังศาลอุทธรณ์สั่งจ่ายเงิน NWR กว่า 837 ล้านบ.

.
.
.