กลุ่ม ปตท.ขึ้นยกแผง หนุนหุ้นพุ่ง11 จุด PTTOR ผงาด ร่วมทุนเมียนมา

HoonSmart.com>>ราคาน้ำมันหนุนหุ้นกลุ่มปตท.ปรับตัวขึ้นทุกตัว วอลุ่มแน่นรวมเกือบ 9 พันล้านบาท ดัชนีหุ้นบวก  11 จุด ส่วน ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก ปักฐานแข็งแกร่งเมียนมา ร่วมทุน 2 โครงการใหญ่ ธุรกิจคลัง-ค้าส่งปิโตรเลียม ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน-ค้าปลีก

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 มิ.ย. ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ 1,664.73 จุด บวก 11.23 จุด หรือ 0.68% มูลค่าการซื้อขายรวม 47,579 ล้านบาท โดยกลุ่มปตท.นำตลาด มีมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิกลุ่มละมากกว่า 1,000 ล้านบาท

หุ้น PTT นำตลาดมีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 2,952 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท บวก 0.25 บาท PTTEP ปิดที่ 128 บาท บวก 3 บาทหรือ 2.40% PTTGC บวก 1.25 บาทหรือ 2.02% ปิดที่ 63 บาท TOP บวก 1 บาทปิดที่ 61 บาท

มาร์เก็ตติงกล่าวว่า นักลงทุนหันมาสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มปตท. เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น และราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวลงมามาก คาดว่าราคาฟื้นตัวช่วงสั้น ๆ เนื่องจากแนวโน้มกำไรยังชะลอตามธุรกิจปิโตรเคมี และราคาน้ำมัน

ทั้งนี้ บริษัท ไทยออยล์คาดในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 51 – 56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 61 – 66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ส่วนปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า PTTOR ร่วมลงนามความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท คันบาวซา จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเมียนมา ได้แก่ โครงการร่วมทุนธุรกิจคลังและค้าส่งปิโตรเลียม กับ บริษัท ไบรท์เทอร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ในการจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมถึงการจัดตั้งและบริหารคลังน้ำมัน ท่าเรือ และโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ซึ่งโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปี 2564 นับเป็นคลังน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเมียนมา มีความจุรวมกว่า 1 ล้านบาร์เรล และมีความจุแอลพีจี รวม 4,500 เมตริกตัน

โครงการร่วมทุนธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและค้าปลีก กับ บริษัท ไบรท์เทอร์ เอนเนอร์ยี่ รีเทล จำกัด โดยจะนำแบรนด์ของ พีทีที โออาร์ ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมาต่อยอดเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคชาวเมียนมา ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ก๊าซหุงต้มแอลพีจี และร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน

นายอรรถพล กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ในประเทศเมียนมา ยังคงเป็นไปภายใต้แนวคิดหลัก “ลีฟวิ่ง คอมมิวนิตี้” (Living Community) เช่นเดียวกันกับในประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้เกษตรกร ชุมชนและธุรกิจเอสเอ็มอี ร่วมเติบโต พร้อมกับการขยายเครือข่ายสถานีบริการฯ โดยวางเป้าหมายการขยายสถานีฯ ที่ 70 แห่ง ภายในปี 2566

ปัจจุบัน พีทีที โออาร์ มีสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น กว่า 2,000 แห่ง ทั้งในประเทศไทย กัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์

สำหรับธุรกิจก๊าซหุงต้มแอลพีจี จะใช้ความโดดเด่นในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยในการเข้าสู่ตลาด โดยมีเป้าการจำหน่ายที่ 1,000 ตันต่อเดือน นอกจากนี้ จะดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ที่คาดว่าจะสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีสอดคล้องกับแนวโน้มความนิยมในการบริโภคกาแฟของผู้บริโภคชาวเมียนมาที่เพิ่มสูงขึ้น

ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 7 สาขา และจะขยายเป็น 100 สาขาภายในปี 2566 โดยร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน มีจำนวนกว่า 2,800 สาขา ทั้งในประเทศไทย เมียนมา กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และโอมาน

บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) แจ้งว่า บริษัทจะหยุดดำเนินการผลิต เพื่อซ่อมบำรุงตามแผนงาน สำหรับโรงงานเมทิลเอสเทอร์ แห่งที่ 1 ระหว่างวันที่ 12-22 มิ.ย.2562 และโรงงานแฟตตี้แอลกอฮอล์ ระหว่างวันที่ 11-30 มิ.ย.2562 ส่วนโรงงานผลิตเมทิลเอสเทอร์ แห่งที่ 2 ในจ.ชลบุรี ยังคงดำเนินการตามปกติ